• ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • Login
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
No Result
View All Result
Home หาโรค

โรคอ้วน (Obesity) : อาการ สาเหตุ การรักษา 

by แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์
04/12/2020
in หาโรค, โรคกระเพาะอาหาร
0
โรคอ้วน
0
SHARES
418
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter
สารบัญ
  • สาเหตุของโรคอ้วนมาจากอะไร
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน
  • การใช้ยาลดน้ำหนัก
  • โรคอ้วนรักษาได้อย่างไร?
  • ป้องกันโรคอ้วนได้อย่างไร?
  • วิธีการลดไขมันในร่างกาย
  • แนวโน้มระยะยาวสำหรับโรคอ้วน
4.7 / 5 ( 23 votes )

โรคอ้วน (Obesity) คือ ภาวะความผิดปกติจากการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เนื่องจากร่างกายมีภาวะไขมันสะสมตามอวัยวะส่วนต่างๆ มากเกินกว่าปกติ

โรคอ้วน
โรคอ้วน

สาเหตุของโรคอ้วนมาจากอะไร 

โรคอ้วนเกิดจากการกินอาหารที่มีแคลอรี่เกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญ หากปล่อยให้ล่วงเลยเวลาไป จะทำให้เกิดการสะสมของแคลอรี่ส่วนเกินและทำให้น้ำหนักเพิ่ม ส่งผลให้เป็นสาเหตุของโรคอ้วน

สาเหตุโดยทั่วไปของโรคอ้วน เช่น :  

  • กินอาหารที่มีไขมันและแคลอรี่สูง
  • การใช้ชีวิตโดยไม่ได้ออกกำลังหรือขยับตัว เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินออก 
  • นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและทำให้เกิดความหิวมากกว่าเดิมและอยากทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง
  • เกิดจากพันธุกรรม จากการประมวลผลพลังงานของร่างกาย กระบวนที่ร่างกายกักเก็บไขมัน 
  • มีอายุที่มากขึ้นทำให้อัตราการเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย 
  • เกิดจากการตั้งครรภ์ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ อาจทำให้ลดยากและไขมันอยู่กับตัวนานจนทำให้นำไปสู่โรคอ้วน

กรณีทางการแพทย์ ที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนเช่น 

  • Polycystic ovary syndrome (PCOS): ภาวะที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนสืบพันธุ์เพศหญิง
  • Prader-Willi syndrome: เป็นภาวะที่ค่อนข้างพบได้ยาก  เกิดในผู้ที่มีภาวะความหิวผิดปกติ 
  • Cushing Syndrome : เกิดจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูง
  • hypothyroidism (underactive thyroid): ภาวะพร่องไทรอยด์ทำงานต่ำ (underactive ไทรอยด์): คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ออกมาไม่เพียงพอ
  • Osteoarthritis : อาการข้อเสื่อม เป็นอาการที่กระดูกอ่อน (Cartilage) ในข้อต่อกระดูกเสื่อมสภาพจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น อายุ การใช้งาน เป็นต้น

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน 

การผสมผสานของหลายปัจจัยของการเป็นโรคอ้วน เช่น ทางพันธุกรรม สภาพแวดล้อม หรือสุขภาพจิต  สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงที่มาจากผลกระทบของโรคอ้วน 

พันธุกรรม

บางคนเป็นโรคอ้วน เนื่องมาจากพันธุกรรม ทำให้การลดน้ำหนักค่อนข้างเป็นไปได้ยาก 

สิ่งแวดล้อมและชุมชน

สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตทั้งในบ้าน หรือที่ทำงาน และในที่ชุมชนอาจส่งผลให้มีอิทธิพลต่อการควบคุมน้ำหนักและการควบคุมอาหารการกิน บางท่านอาจอยู่ในแหล่งที่หาซื้อของกินได้อย่างสะดวก การใช้ชีวิตที่เร่งรีบเลยจำเป็นต้องซื้ออาหารนอกบ้าน ซึ่งการซื้ออาหารสำเร็จรูป หรืออาหารที่วางขายทั่วไป เราอาจไม่รู้วิธีการปรุงอาหาร และการใช้วัตถุดิบในการทำอาหารว่าใช้วัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารที่ปลอดภัย หรือบางทานอาจอยู่ห่างไกลในสถานที่ที่สามารถจะออกกำลังกาย เช่น เดินหรือวิ่งได้ ส่งผลทำให้ร่างกายไม่ได้รับการเบิร์นไขมันหรือแคลอรี่ออกไป  

ปัจจัยทางจิตวิทยาและอื่น ๆ

บางครั้งอาการซึมเศร้าอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ผู้คนบางส่วนนิยมรับประทานอาหารเพื่อบำบัดอารมณ์ โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าทางอาหาร และการใช้ยากล่อมประสาทบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักได้

อีกปัจจัยหนึ่งคือการเลิกสูบบุหรี่ การเลิกสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่ดี แต่นั่นอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเน้นเรื่องการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายในขณะที่อยู่ระหว่างการเลิกสูบบุหรี่ 

ส่วนผู้ที่ใช้ยารักษาโรค เช่น สเตียรอยด์ หรือยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักด้วยเช่นกัน 

การวินิจฉัยโรคอ้วน 

โรคอ้วน หมายถึงการมีค่าดัชนีมวลกาย 30 หรือมากกว่าเป็นต้นไป ดัชนีมวลกายเป็นการคำนวณคร่าวๆของน้ำหนักของบุคคลที่เสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะมีน้ำหนักเกินกว่ากำหนด 

วิธีการตรวจที่ได้ผลแม่นยำมากขึ้นเพื่อตรวจการกระจายไขมันในร่างกายและตรวจวัดระดับไขมันในร่างกาย ได้แก่ ความหนาของผิวหนังการเปรียบเทียบรอบเอวถึงสะโพก และการตรวจด้วยวิธีการอัลตร้าซาวด์การคำนวณเอกซ์เรย์แบบคอมพิวเตอร์  แบบ CT สแกน และ MRI (Magnetic Resonance Imaging) คือ เครื่องตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริง ของส่วนต่างๆของร่างกาย โดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ(Radio Frequency) ด้วยการส่งคลื่นความถี่เข้าสู่ร่างกาย และรับคลื่นสะท้อนกลับ นำมาประมวลผลและสร้างเป็นภาพ ด้วยคอมพิวเตอร์

แพทย์อาจกำหนดวิธีการทดสอบเพื่อช่วยวินิจฉัยโรคอ้วน รวมถึงสอบถามความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน และอาจตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบระดับคอเลสเตอรอลและกลูโคส การทดสอบการทำงานของตับ ทดสอบต่อมไทรอยด์และการทดสอบหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า

การวัดไขมันรอบเอวก็สามารถเป็นตัววัดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้เช่นกัน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคอ้วนคืออะไร?

โรคอ้วนนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย การมีไขมันในร่างกายสูงต่อกล้ามเนื้อ ส่งผลต่อกระดูกและอวัยวะภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังเพิ่มการอักเสบในร่างกายซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง โรคอ้วนยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเบาหวานระยะที่ 2 อีกด้วย

โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนสามารถเชื่อมโยงกับสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากโรคอ้วน เช่น :

  • โรคเบาหวานระยะที่ 2
  • โรคหัวใจ
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • โรคถุงน้ำดี
  • โรคไขมันพอกตับ
  • คอเลสเตอรอลสูง
  • อาการหยุดหายใจขณะหลับ และปัญหาการหายใจอื่น ๆ
  • โรคไขข้อ
  • ภาวะมีบุตรยาก

การใช้ยาลดน้ำหนัก

Obesity
Obesity

การใช้ยาลดน้ำหนักควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ยาอาจจะถูกกำหนดให้ใช้เฉพาะในกรณีที่วิธีการลดน้ำหนักแบบอื่นแล้วไม่ได้ผล และหากผู้ป่วยมีค่าดัชนีมวลกายเป็น 27 หรือมากกว่านั้น 

ยาลดความอ้วนตามใบสั่งของแพทย์จะทำงานเพื่อป้องกันการดูดซึมไขมันหรือระงับความอยากอาหาร ยาเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ตัวอย่างยา เช่น orlistat (Xenical) ตัวยาประเภทนี้สามารถทำให้ไขมันและก๊าชในลำไส้ค่อยๆเคลื่อนไหว การใช้ยาเหล่านี้ควรอยู่ในความดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกทานอาหารจะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักและเป็นวิธีลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี ควรรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่เหมาะกับร่างกาย และควรจัดวางแผนโปรแกรมการออกกำลังกาย หรือจัดอาหารสำหรับโปรแกรมการลดน้ำหนักในแต่ละวัน หรือต่อสัปดาห์  การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความอดทน และช่วยการทำงานเมทาบอลิซึมของร่างกายได้ดีขึ้น

การผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก

การผ่าตัดลดน้ำหนัก (โดยทั่วไปเรียกว่า “ผ่าตัดลดความอ้วน”) ต้องอาศัยความมุ่งมั่นจากผู้ป่วยที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิต การผ่าตัดประเภทนี้จะทำงานโดยการ จำกัด จำนวนอาหารที่ผู้ป่วยต้องรับประทาน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมอาหารและแคลอรี่ ที่เป็นส่วนเกินเข้าไป

การผ่าตัดลดน้ำหนักไม่ใช่วิธีที่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว การผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงร้ายแรง หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารและการรับประทานอาหารที่ไม่เสี่ยงต่อการอาการของโรคอ้วนอย่างเคร่งครัด

ผู้ที่ต้องการผ่าตัดลดน้ำหนัก จะต้องมีค่าดัชนีมวลกาย 40 หรือมากกว่า หรือมีค่าดัชนีมวลกาย 35-39.9 และมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนอย่างจริงจัง ผู้ป่วยจะต้องควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักก่อนเข้ารับการผ่าตัด นอกจากนี้ผู้ป่วยต้องได้รับการให้คำปรึกษาจากแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตตามที่ปราถนาเพื่อขจัดโรคอ้วนออกไปได้อย่างแน่นอน 

ตัวเลือกการผ่าตัดรวมถึง:

  • gastric bypass surgery : การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร นำลำไส้ไปต่อกระเพาะอาหารทำให้อาหารไม่ผ่านกระเพาะจะทานอาหารได้น้อยและรู้สึกอิ่มเร็ว
  • laparoscopic adjustable gastric banding (LAGB) : เป็นการนำห่วงรัดที่ปรับได้ไปรัดกระเพาะเพื่อลดปริมาณการทานอาหารต่อครั้งลง
  • gastric sleeve: เป็นการลดขนาดของกระเพาะอาหาร
  • biliopancreatic diversion with duodenal switch:  เป็นวิธีที่ลดน้ำหนักได้มากที่สุด แต่ก็มีผลแทรกซ้อนมากที่สุด ในเรื่องของการดูด ซึมสารอาหาร

โรคอ้วนรักษาได้อย่างไร?

หากคุณเป็นโรคอ้วนและไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยตัวเอง หรือหากต้องการปรึกษาแพทย์ แพทย์อาจจะแนะนำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหนักโดยเฉพาะ แพทย์จะให้คำปรึกษาในเรื่องการลดน้ำหนัก สามารถปรึกษานักโภชนาการ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพทั่วไปได้เช่นกัน  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเป็นต้น

ป้องกันโรคอ้วนได้อย่างไร?

การป้องกันการการมีน้ำหนักเพิ่ม ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควรตั้งเป้าออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เช่นการเดินออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย เป็นเวลา 20 ถึง 30 นาทีทุกวัน เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ธัญพืชและโปรตีนลีน กินอาหารที่มีไขมันและแคลอรีในปริมาณที่พอเหมาะ วิธีลดความอ้วนอย่างเร่งด่วน ควรงดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ในแต่ละวัน วิธีนี้จะส่งผลให้น้ำหนักลดได้เร็วอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการลดไขมันในร่างกาย

  • กินอาหารประเภทโปรตีนกับไขมันให้ครบถ้วนสมดุล
  • ไม่ควรงดอาหารมือเช้า
  • กินอาหารที่มีกากใยทุกมือ
  • ดื่มน้ำมากๆ

แนวโน้มระยะยาวสำหรับโรคอ้วน

โรคอ้วนส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับโรคอ้วนได้หลายโรคเลยทีเดียว ปัจจุบันผู้คนเลยให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและทำกิจกรรมเพื่อช่วยลดความอ้วนได้อย่างง่ายๆกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบต่อตัวเราเองด้วย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอย่างถาวร


ลิ้งค์ด้านล่างเป็นแหล่งข้อมูลบทความของเรา 

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/obesity/symptoms-causes/syc-20375742
  • https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/obesity-and-overweight
  • https://www.nhs.uk/conditions/obesity/ 
  • https://www.cdc.gov/obesity/adult/defining.html 

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เธอมีความเชื่อว่าผิวพรรณที่มีสุขภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ดังนั้นความตั้งใจของเธอคือต้องการช่วยให้ทุกคนมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี ปราศจากโรคทางผิวหนัง และแพทย์หญิงวิกานดาเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งมากคนหนึ่งในประเทศ

Next Post
ไขมันพอกตับ

ไขมันพอกตับ (Fatty Liver) : อาการ สาเหตุ ระยะของโรค การรักษา 

Please login to join discussion

บทความยอดนิยมของเรา

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • Erectile Dysfunction
  • รีวิวยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ประเภท

  • การติดเชื้อ
  • ครีมและเจล
  • จิตวิทยา
  • ซินโดรม
  • บทความสุขภาพ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มะเร็ง
  • หาโรค
  • อาการ
  • โภชนาการ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคตา
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคผิวหนัง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคระบบกล้ามเนื้อ
  • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
  • โรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคระบบประสาท
  • โรคระบบสืบพันธุ์
  • โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคในช่องปาก
  • โสตนาสิกลาริงซ์วิทยา

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์ Bupa.co.th รวบรวมบทความเกี่ยวกับโรคต่าง

นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ Bupa.co.th ยังส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาและนำเสนอบทความที่หลากหลายและมีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้อ่านอันเป็นที่รักของเราทุกคน

  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.