อาการของคนตั้งครรภ์ (Pregnant Symptoms) : สาเหตุ อาการ การรักษา

สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาปกติตรงรอบทุกเดือน อาการแสดงที่เห็นได้เร็วสุดและแม่นยำคือ การขาดประจำเดือน

ผู้หญิงตั้งครรภ์บางคน สามารถพบเลือดออกทางช่องคลอดลักษณะคล้ายๆกับประจำเดือนได้ แต่ปริมาณหรือลักษณะของเลือดจะน้อยกว่าประจำเดือนทั่วไป เรียกลักษณะนี้ว่า เลือดออกจากการฝังตัวของตัวอ่อน ( Implantation Bleeding )

อาการและอาการแสดงในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อาจตรวจพบดังนี้

ผู้หญิงแต่ละคนจะแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่มีอาการเหล่านี้

แต่มีสัญญาณตั้งครรภ์ที่สามารถสังเกตุได้เมื่อผ่านพ้นการตั้งครรภ์ในช่องสองถึงสามเดือน

อาการรู้สึกป่วยระหว่างตั้งครรภ์

อาการคนตั้งครรภ์อาจจะพบว่ามีอาการรู้สึกป่วย คลื่นไส้ หรือ อาเจียนอาการเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ อาการแพ้ท้อง ( Morning sickness ) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีอาการแพ้ท้อง อาการจะเริ่มแสดงตั้งแต่ 4 – 6 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์

ถ้าคุณรู้สึกป่วย คลื่นไส้ อาเจียน แต่อาการคลื่นไส้ของคนท้องนั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติ หากพักผ่อนแล้วอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์

คุณอาจมีอาการแพ้ท้องรุนแรง ( Hyperemesis Gravidarum ) ซึ่งเป็นอาการรุนแรงที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ เกิดจากการอาเจียนหลายๆครั้ง และอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษา

อาการอ่อนเพลียพบได้ทั่วไปในผู้หญิงตั้งครรภ์

เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงตั้งครรภ์จะรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย โดยเฉพาะในระยะ 12 สัปดาห์แรก

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายสามารถทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย อารมณ์แปรปรวนและโกรธได้ง่าย

อาการคัดเต้านมในหญิงตั้งครรภ์

เต้านมอาจจะใหญ่ขึ้นและรู้สึกเจ็บ คล้ายๆก่อนมีประจำเดือน หรือบางทีอาจรู้สึกเสียวที่เต้านม

เส้นเลือดดำที่เต้านมอาจมองเห็นได้ชัดขึ้น หัวนมอาจมีสีคล้ำขึ้นและตั้งตรง

ปัสสาวะบ่อยพบได้มากขึ้นในหญิงการตั้งครรภ์

หญิงตั้งครรภ์อาจรู้สึกปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ รวมไปถึงปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนด้วย

อาการแสดงอื่นๆที่อาจพบได้ในหญิงตั้งครรภ์

• ท้องอืด

• ตกขาวมากกว่าปกติ (โดยไม่มีอาการเจ็บหรือระคายเคือง)

กินอาหารแปลกๆ ชอบรสชาติแปลกๆ หรือ ได้กลิ่นอาหารแปลกๆ

ระหว่างการตั้งครรภ์อาจพบว่าคุณไม่ชอบอาหารที่คุณเคยชอบ หรือไม่ชอบเครื่องดื่มที่คุณเคยชอบดื่ม

คุณอาจพบว่า

• รสชาติแปลกๆที่คุณกินเข้าไปในปาก ผู้หญิงตั้งครรภ์หลายๆคนอาจบอกว่ากำลังเคี้ยวโลหะอยู่

• แสวงหาอาหารแปลกๆใหม่ๆ

• หมดความสนใจในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เคยชอบกิน เช่น ชา กาแฟ หรืออาหารที่มีไขมัน

• หมดความสนใจในการสูบบุหรี่

• มีความไวต่อการได้กลิ่นมากกว่าปกติ เช่นกลิ่นอาหาร กลิ่นจากการทำอาหาร

ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับอาการ

ถ้าคุณมีอาการหรือมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ ควรไปพบแพทย์ หรือพยาบาลผดุงครรภ์

ถ้าผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นลบ

ผลตรวจการตั้งครรภ์ที่เป็นบวก มีความเชื่อถือและแม่นยำค่อนข้างสูง หากคุณตรวจถูกต้องตามคำแนะนำ

ผลตรวจการตั้งครรภ์ที่เป็นลบเชื่อถือได้ค่อนข้างน้อย ถ้าคุณตรวจได้ผลเป็นลบ แต่ยังสงสัยว่ามีการตั้งครรภ์ ควรรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์แล้วตรวจใหม่อีกที

ถ้าคุณตั้งครรภ์ สามารถใช้ปฏิทินการตั้งครรภ์เพื่อคำนวณหาวันคลอดบุตรได้

อาการตั้งครรภ์ที่พบได้ยาก

• โรคชอบกินของแปลก: โรคชอบกินของแปลก เป็นภาวะที่หายาก โดยมีความอยากอาหารที่ไม่ใช่อาหาร เช่น น้ำแข็ง ดินเหนียว ดิน หรือแม้แต่กระดาษ อาจเกี่ยวข้องกับการขาดธาตุเหล็กหรือการขาดสารอาหารอื่นๆ
• ภาวะอาเจียนรุนแรง: แม้ว่าอาการแพ้ท้อง (คลื่นไส้และอาเจียน) จะเป็นเรื่องปกติในการตั้งครรภ์ แต่ภาวะอาเจียนรุนแรง เป็นรูปแบบที่รุนแรงและพบไม่บ่อยของการแพ้ท้อง โดยมีสาเหตุจากการอาเจียนมากเกินไป ภาวะขาดน้ำ และน้ำหนักลด
• ครรภ์แฝดน้ำ: ภาวะนี้เกี่ยวข้องกับการสะสมของน้ำคร่ำมากเกินไปในถุงน้ำคร่ำที่อยู่รอบ ๆ ทารก อาจทำให้รู้สึกไม่สบายและอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของทารกในครรภ์หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์
• ภาวะท่อน้ำดีในตับอุดตันขณะตั้งครรภ์ : ภาวะท่อน้ำดีในตับอุดตันขณะตั้งครรภ์ เป็นโรคตับที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เกิดอาการคันรุนแรง โดยเฉพาะที่มือและเท้า นอกจากนี้ยังอาจทำให้ตับทำงานผิดปกติได้ และมักได้รับการจัดการโดยได้รับการดูแลจากแพทย์
• เลือดออกทางช่องคลอด:แม้ว่าการพบเห็นหรือมีเลือดออกในการตั้งครรภ์ระยะแรกอาจเป็นภาวะปกติ แต่เลือดออกหนักหรือถาวรในระหว่างตั้งครรภ์อาจเป็นสัญญาณของสภาวะต่างๆ รวมถึงการหยุดชะงักของรก รกเกาะเกาะต่ำ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
• รอยดำ:หญิงตั้งครรภ์บางรายอาจมีผิวคล้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ของผิวหนัง เช่น เส้นสีเข้มพาดผ่านช่องท้อง หรือฝ้า   
• ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก :ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกตัวมากกว่าปกติในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้มีช่องว่างที่เห็นได้ชัดเจนในแนวกึ่งกลางของช่องท้อง อาจทำให้รู้สึกไม่สบายและอาจต้องทำกายภาพบำบัด
• โรคการกดทับประสาทบริเวณข้อมือ :ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการของโรคการกดทับประสาทบริเวณข้อมือ เช่น รู้สึกเสียวซ่า ชา หรือปวดมือและข้อมือในระหว่างตั้งครรภ์

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

• https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/getting-pregnant/in-depth/symptoms-of-pregnancy/art-20043853

• https://www.webmd.com/baby/guide/pregnancy-am-i-pregnant#1

• https://www.healthline.com/health/pregnancy/early-symptoms-timeline

• https://my.clevelandclinic.org/health/articles/9709-pregnancy-am-i-pregnant

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team