อาเจียน (Vomit): สาเหตุ อาการ การรักษา
อาการอาเจียนคือ
อาการอาเจียน (Vomit) คืออาการที่มักจะเกิดขึ้นร่วมกับอาการคลื่นใส้ เป็นการปล่อยอาหารที่เกินในกระเพาะอาหารของเราออกมา มักจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งบางครั้งไม่ได้เชื่อมโยงกันกับการตั้งครรภ์ การเกิดอาการอาเจียนบ่อย นั้น อาจจะเกิดจากการรักษาโรคบางอย่างหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางตัว
การอาเจียนบ่อยเกินไปนั้น อาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา ก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อาการอาเจียนที่ควรไปพบแพทย์
อาการอาเจียนเป็นอาการที่เกิดขึ้นตามปกติ แต่ถ้ามีอาการอาเจียนที่ผิดปกติ ต้องรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณมีอาการดังนี้ ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ทันที:
- มีอาการอาเจียนมากกว่า 1 วัน
- มีอาการอาหารเป็นพิษ
- มีอาการปวดหัวรุนแรง ที่มาพร้อมกับอาการคอแข็ง
- มีอาการปวดท้อง(stomach)อย่างรุนแรง
ผู้ป่วยควรพบแพทย์โดยด่วน ถ้ามีเลือดปนอยู่ในอาเจียน เรียกอาการนี้ว่า อาเจียนเป็นเลือด อาการอาเจียนเป็นเลือด มีอาการดังต่อไปนี้:
- อาเจียนเป็นเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก
- อาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำ
- อาเจียนออกมาแล้วสีน้ำตาลปนมาด้วย
อาการอาเจียนออกมาเป็นเลือด มักมีสาเหตุมาจาก:
- แผลในกระกระเพาะอาหาร(peptic ulcer)
- เส้นเลือดดำในกระกระเพาะอาหารแตก
- เลือดออกในกระเพาะอาหาร
นั่นคือสาเหตุมาจากเชื้อมะเร็งได้ อาการนี้มักจะมีอาการคลื่นใส้มาด้วย หากผู้ป่วยมีอาการอาเจียนเป็นเลือด รีบไปพบแพทย์ทันที หรือไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที
สาเหตุของอาการอาเจียน
อาการอาเจียนเป็นอาการธรรมดาที่เกิดขึ้นกับเราได้บางครั้งการรับประทานอาหารมากเกินไปหรือดื่มแอกอฮอล์มากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดการอาเจียนได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่นัก อาการอาเจียนนั้นไม่ใช่ภาวะที่ร้ายแรง
นี่คืออาการอาเจียนจากภาวะอื่น ซึ่งมีดังต่อไปนี้:
- การติดเชื้อ(อาจเกิดมาจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในหวัด)
- อาการอาเจียนเนื่องจากอาหารเป็นพิษ
- การตั้งครรภ์ซึ่งสัมพันธ์กับอาการแพ้ท้อง
- อาการปวดหัว
- การรักษาโดยเคมีบำบัด
- โรคโครห์น(crohn’s syndrome)
- อาการเมาเครื่องบิน หรือเมารถ เมาเรือ
- ผลข้างเคียงจากยาบางประเภท
อาการอาเจียนที่รุนแรงที่ไม่สัมพันธ์กับอาการที่กล่าวข้างต้นนั้น อาจจะมีอาการของภาวะเกิดการอาเจียนบ่อยที่ผิดปกติ อาการนี้จะมีลักษณะอาเจียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ(dizziness)ร่วมด้วย และขาดพลังงาน อาการนี้มักจะเกิดขึ้นกับเด็ก
อาการนี้สามารถเป็นสาเหตุการอาเจียนได้หลายครั้งตลอดทั้งปีถ้าไม่ได้รับการรักษา นอกจากนี้ยังมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากอาการอาเจียนคือ
- ภาวะขาดน้ำ(dehydration)
- ฟันผุ
- หลอดอาหารอักเสบ
- กรดไหลย้อน
วิธีแก้อาการอาเจียน
การแก้อาการอาเจียน เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษา
อาการอาเจียนนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นทั้งวัน การดื่มน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่าจะอาเจียนแค่ครั้งเดียวก็ตาม การดื่มน้ำเป็นวิธีที่แก้การอาเจียนที่ดีที่สุด ควรดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของอิเล็กโทรไลต์เพื่อช่วยให้อาการอาเจียนของคุณหายไปเป็นปลิดทิ้ง
การับประทานอาหารหยาบนั้น อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ซึ่งทำให้โอกาสในการอาเจียนเกิดได้มากขึ้น อาจจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารแข็งจนกว่าอาการอาเจียนจะหายไป
แพทย์อาจแนะนำให้คุณรับประทานยาแก้อาเจียนสำหรับกรณีที่มีอาการอาเจียนที่รุนแรง ยาตัวนี้ช่วยให้อาการอาเจียนนั้นลดลง
การรักษาแบบพื้นบ้าน เช่นการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีขิงมะกรูด และน้ำมันตะไคร้ก็อาจช่วยได้เช่นกัน การใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกในการรักษาอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนที่จะเริ่มการทางเลือกใดๆ
การเลือกรับประทานอาหารสามารถช่วยลดอาการอาเจียนได้เป็นอย่างดีหากคุณมีอาการแพ้ท้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการอาเจียน
- อาหารที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป
- ดื่มน้ำขิง
คุณสามารถรับประทานอาหารที่แบ่งเป็นมื้อเล็กๆได้ตลอดทั้งวัน
สถิติในการอาเจียนของประเทศไทย
สถิตินี้จะแสดงถึงอาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นได้ต่อไปนี้
อาการคลื่นไส้ในหญิงตั้งครรภ์พบได้บ่อยถึงร้อยละ 50-80 และอาเจียนร่วมด้วยได้บ่อยถึงร้อยละ 50 ส่วนอาการแพ้ท้องรุนแรง (Hyperemesive gravidarum) พบได้ร้อยละ 0.3-3 ของหญิงตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนที่รุนแรง ไม่สัมพันธ์กับสาเหตุอื่น และไม่หายไปเอง มักมีอาการที่บ่งบอกถึงการขาดสารอาหารอย่างเฉียบพลัน ได้แก่ การขาดน้ำ (Dehydration) การเพิ่มขึ้นของสารคีโตนในเลือด (Ketosis) น้ำหนักตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 5 ของน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ อาจพบว่ามีความผิดปกติของเกลือแร่ (Electrolyte) ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid) และการทำงานของตับ (Liver abnormalities) ร่วมด้วย
มีงานวิจัยที่พยายามจะแบ่งกลุ่มอาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ โดยใช้ Modified PUQE (Modified Pregnancy-unique quantification of emesis and nausea scoring index) มาแบ่งความรุนแรงของอาการคลื่นไส้อาเจียน พิจารณาจากระยะเวลาที่มีอาการคลื่นไส้ จำนวนครั้งที่อาเจียน และจำนวนครั้งที่อาเจียนโดยที่ไม่มีอะไรออกมาในแต่ละวัน หากได้คะแนน ≤ 6 เป็นกลุ่มที่มีอาการน้อย, หากได้คะแนน 7-12 เป็นกลุ่มที่มีอาการปานกลาง, หากได้คะแนน ≥13 เป็นกลุ่มที่มีอาการรุนแรง ซึ่งพบว่าสามารถใช้ Modified PUQE มาประเมิณคุณภาพชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ได้
นี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/symptoms/nausea/basics/definition/sym-20050736
- https://www.webmd.com/digestive-disorders/digestive-diseases-nausea-vomiting
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team