ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)

ต่อมทอนซิล (Tonsillitis) คืออะไร: ต่อมทอนซิลป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันคอยกำจัดเชื้อโรคในคอไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของร่างกาย ต่อมทอนซิลพบได้หลายตำแหน่งในช่องปาก หากมีความผิดปกติ หรือเกิดการติดเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียจะส่งผลให้เป็นภาวะต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)  ทอนซิลอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น แบคทีเรีย สเตรปโทคอกค (Streptococcal bacteria) เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ หรือคออักเสบได้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เป็นแทรกซ้อนร้ายแรงได้ ต่อมทอนซิลอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่จะพบในเด็กก่อนวัยเรียนจนถึงวัยรุ่นตอนกลาง 

อาการของต่อมทอนซิลคือ 

เมื่อทอนซิลอักเสบจะมีอาการเจ็บคอ ต่อมท่อนซิลบวมแดง และมีไข้ อาการต่อมทอนซิลอักเสบ สามารถวินิจฉัยได้ง่าย ผู้ป่วยต่อมทอนซิลอักเสบจะมีอาการอยู่ประมาณ 7-10 วัน สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับดูแลรักษาการเป็นต่อมท่อนซิลอักเสบ

ทอนซิลอักเสบ มี 3 ประเภท 

  • แบบเฉียบพลัน 
  • แบบเรื้อรัง 
  • แบบกำเริบ

อาการของทอนซิลอักเสบมีดังนี้

  • เจ็บคอมาก
  • กลืนอาหารลำบาก หรือปวดคอเวลากลืนอาหาร
  • เสียงแหบ
  • มีกลิ่นปาก
  • มีไข้
  • มีอาการหนาวสั่น
  • ปวดหู
  • ปวดท้อง
  • อาการปวดหัว
  • มีอาการคอเคล็ด หรือคอแข็ง
  • ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองใต้กรามและบริเวณคอบวม
  • ต่อมทอนซิลเกิดเป็นสีแดง และบวม
  • ต่อมทอนซิลมีจุดสีขาวหรือสีเหลือง
อาการต่อมทอนซิลอักเสบในเด็กเล็กจะสังเกตได้ง่ายว่าเด็กจะมีอาการหงุดหงิดและไม่อยากทานอาหาร และอาจมีน้ำลายไหลออกมามากกว่าปกติ ต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดในเด็กถือว่าเป็นเรื่องปกติ เด็กทุกคนจะมีจะเกิดอาการต่อมทอนซิลอักเสบ อย่างน้อย 1 ครั้ง หากมีอาการประมาณ 10 วันหรือน้อยกว่า นั่นหมายถึงอยู่ในประเภทต่อมทอนซิลอักเสบแบบเฉียบพลัน หากมีอาการนานกว่าระยะเวลาดังกล่าว จะกลายแป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง  และอาจะเป็นต่อมทอนซิลแบบกำเริบ ต่อมทอนซิลอักเสบแบบเฉียบพลันสามารถรักษาหายได้เองที่บ้าน ผู้ป่วยต่อมทอนซิลอาจต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อแก้อาการทอนซิลอักเสบให้หายเร็วขึ้น ต่อมทอนซิลอักเสบแบบเรื้อรัง

อาการต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังจะมีอาการนานกว่าแบบเฉียบพลัน และมีอาการดังนี้ :

  • เจ็บคอ
  • กลิ่นปาก (กลิ่นปาก)
  • ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม
ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังยังอาจทำให้เกิดนิ่วทอนซิล   เนื่องจากเซลล์ที่ตายแล้วบริเวณต่อมทอนซิล หรือมีการสะสมของน้ำลายและหายอยู่ในรอยที่แตกของต่อมทอนซิล ก่อให้เกิดเป็นก้อนแข็งๆเล็ก และอาจส่งผลให้ต่อมทอนซิลโตได้ อาจจะต้องให้แพทย์เอาออกให้โดยเครื่องมือแพทย์ หากผู้ป่วยมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดต่อมทอนซิลออก

ทอนซิลอักเสบกำเริบ

อาการต่อมทอนซิลกำเริบ เป็นอาการเช่นเดียวกับต่อมทอนซิลอักเสบแบบเรื้อรัง แต่จะเว้นระยะในการเป็นตามระยะเวลาดังนี้
  • ทอนซิลอักเสบมากกว่า 7 ครั้งในรอบหนึ่งปี
  • ทอนซิลอักเสบมากกว่า  4-5 ครั้งในรอบหนึ่งปีเป็นระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
  • ทอนซิลอักเสบมากกว่า 3 ครั้งในรอบหนึ่งปีเป็นระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ดังนี้
  • ไข้ที่สูงกว่า และอุณหภูมิสูงกว่า 39.5 ° C
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เกิดอาการฝืดคอ
  • อาการเจ็บคออยู่นานกว่า 2 วัน
  • ผู้ป่วยบางรายต่อมทอนซิลอักเสบอาจทำให้คอบวมมาก หรือทอนซิลอักเสบเป็นหนอง ส่งผลให้หายใจลำบาก หากเป็นเช่นนี้ให้ไปพบแพทย์ทันที บางรายอาการอาจหายได้เอง
Tonsillitis

อาการต่อมทอนซิลอักเสบในเด็กและผู้ใหญ่

ต่อมทอนซิลอักเสบพบได้บ่อยในเด็ก เพราะเด็กอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และรับเชื้อเหล่านี้ได้ง่าย เช่นการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้คนจำนวนเยอะ หรืออยู่ในโรงเรียน การเดินทางโดยรถโดยสารพาหนะ หรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้คนจำนวนมาก อาการและการรักษาต่อมทอนซิลอักเสบกันทั้งในผู้ใหญ่และเด็กจะใช้วิธีเดียวกันแต่การรักษาต่อมทอนซิลสำหรับผู้ใหญ่จะใช้เวลานานกว่ารักษาต่อมทอนซิลอักเสบในเด็ก   ต่อมทอนซิลที่มีอาการคออักเสบร่วมด้วย ต่อมทอนซิลอักเสบที่มีอาการคออักเสบร่วมด้วย เกิดจากแบคทีเรียชนิดเดียวกัน ผู้ป่วยต่อมทอนซิลอักเสบและอาการคออักเสบร่วมด้วยจะมีอาการดังนี้
  • ปวดเมื่อยในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
  • วิงเวียนศรีษะ
  • อาเจียน
  • จุดแดงเล็ก ๆ ที่ด้านหลังของปาก
  • เป็นหนองบริเวณรอบๆต่อมทอนซิล
  • ผื่นขึ้น

สาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบ

ต่อมทอนซิลเป็นด่านแรกของการป้องกันการเจ็บป่วย ต่อมทอนซิลจะมีหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อผิดแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย หากเชื้อเหล่านี้ผ่านเข้าทางปากและจมูก ต่อมทอนซิลจะทำหน้าที่สู้กับเชื้อเหล่านี้เป็นด่านแรก
  • ไวรัสเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของต่อมทอนซิลอักเสบ  ต่อมทอนซิลอักเสบอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัด หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่คอ และส่งผลให้เป็นอาการคออักเสบ
  • ไวรัสชนิดอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบ รวมไปถึง
  • เชื้อไวโรไวรัสตับอักเสบเอ
  • HIV
  • เชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโมโนนิวคลิโอซิส หรือที่เรียกกันว่าโรคติดต่อจากการจูบ หากเชื้อไวรัสชนินี่มเข้าสู่ร่างกายส่งผลให้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบและต่อมน้ำเหลืองโตได้
  • ต่อมทอนซิลอักเสบจากแบคทีเรีย
หากผู้ป่วยมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัส จะมีอาการไอ คัดจมูก การกินยาปฏิชีวนะแก้ต่อมทอนซิลอักเสบอาจไม่ส่งผลกับเชื้อไวรัสมากนัก แต่สามารถรักษาให้หายโดยการใช้ยาบรรเทาอาการปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป และควรนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนและรักษาอาการปวดให้หายเร็วได้ยิ่งขึ้น แบคทีเรียที่ทำให้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบ จะส่งผลให้มีอาการเกิดคออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียจะพบได้มากสำหรับเด็กช่วงอายุ 5-15 ปี แพทย์จะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบจะรักษาเช่นเดียวกันกับอาการต่อมทอนซิลที่เกิดจากเชื้อไวรัส   การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบได้ที่บ้าน หากมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบในเบื้องต้น ควรปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้  
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ วันละหลายครั้ง
  • กินยาอมบรรเทาอาการปวด
  • กินไอติมหรืออาหารแช่เย็น
  • อยู่ในที่ที่อากาศปรอดโปร่ง
  • หลีกเลี่ยงควัน
  • ทานยา acetaminophen หรือ ibuprofen เพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ

ผู้ป่วยทอนซิลอักเสบ ห้ามกินอะไร

ผู้ป่วยต่อมทอนซิลไม่ควรทานอาหารรสจัด อาหารที่ทำให้ร้อนใน อาหารที่ปรุงด้วยการผัดหรือทอด เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ทอนซิลอักเสบบวมมากยิ่งขึ้น การวินิจฉัยโรคทอนซิลอักเสบ

การวินิจฉัยต่อมทอนซิล

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นด้วยการตรวจลำคอโดยอาจใช้วิธีการต่อไปนี้
  • ใช้ไฟฉายส่องดูบริเวณลำคอ รวมทั้งอาจดูบริเวณหูและจมูกร่วมด้วย เนื่องจากเป็นบริเวณที่แสดงอาการติดเชื้อได้เช่นกัน
  • แพทย์จะเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจนับเซลล์เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ ว่ามีค่าปกติหรือต่ำกว่าปกติ เพื่อบ่งบอกว่าเป็นการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย

วิธีรักษาทอนซิลอักเสบ

การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส 

และนำไปสู่อาการของไข้หวัด อาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา เนื่องจากสามารถกินยาและรักษาหายได้เองในเบื้องต้น การใช้ยาปฏิชีวนะ จะใช้กับผู้ป่วยที่เป็นต่อมทอนซิลอักเสบรุนแรง หากผู้ป่วยอยู่ในภาวะขาดน้ำเนื่องจากต่อมทอนซิลอักเสบ ผู้ป่วยอาจต้องรับของเหลาวผ่านทางหลอดเลือดดำ การรับยาแก้ปวดจะช่วยให้บรรเทาอาการปวดของต่อมทอนซิลบริเวณลำคอ

การผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy)

ทอนซิลเลคโตมี (Tonsillectomy) คือการผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก โดยทั่วไปแล้วจะรักษาด้วยการผ่าตัดกับผู้ที่เป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังหรือผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน หากอาการต่อมทอนซิลไม่มีแนวโน้มที่จะทุเลาลง หากผู้ป่วยเคยมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ มีอย่างน้อย 5 ถึง 7 ครั้งในปีที่ผ่านมา อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมทอนซิล หากผ่าตัดต่อมทอนซิลอักเสบแล้ว จะช่วยทำให้บรรเทาปัญหาการหายใจและการกลืนอาหารลำบากได้ การผ่าตัดต่อมทอนซิลอักเสบ อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เชื้อลุกลามไปสู่คอหอยได้ด้วย แต่ถึงแม้จะมีการผ่าตัดต่อมทอนซิลไปแล้ว อาการต่อมทอนซิลอักเสบสามารถกลับมาเป็นได้อีก แต่ไม่พบได้บ่อยนัก การรักษาต่อมทอนซิลด้วยการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้วันเดียวกับการเข้ารับการผ่าตัด และใช้เวลารักษาและฟื้นฟูแผลเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์  

การรักษาต่อมทอนซิลด้วยยาปฏิชีวนะ

แพทย์จะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาต่อมทอนซิลที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะจะช่วยบรรเทาอาการปวดอักเสบของต่อมทอนซิลให้หายเร็วยิ่งขึ้น แต่อาจส่งผลข้างเคียงต่อการดื้อยา และมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น อาการปวดท้อง  หากผู้ป่วยมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบที่มาเชื้อ A Streptococcus แพทย์จะสั่งจ่ายยาในกลุ่มเพนนิซิลลิน ผู้ป่วยบางรายอาจะallergy-0094/”>แพ้ยากลุ่มเพนิซิลลิน การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นยารักษาต่อมทอนซิลอักเสบ ถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว ก็ควรทานยาให้ครบตามกำหนด แพทย์จะจัดยาตามอาการและกำหนดระยะการกินยา หากกินยาไม่ครบตามกำหนดมีผลให้เสี่ยงต่ออาการอักเสบจะกลับมาเป็นอีก

ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นโรคติดต่อหรือไม่

โรคต่อมทอนซิลอักเสบสามารถติดต่อกันได้เหมือนกับโรคหวัดธรรมดาและโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมาจากการสัมผัสเชื้อโรคจากผู้ป่วยที่มีเชื้อโดยตรง เช่น ลมหายใจ การไอ การจาม การสัมผัสสารคัดหลั่งน้ำมูก หรือน้ำลายของผู้ป่วย รวมถึงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ช้อน แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า  ควรงดการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นต่อมทอนซิลอักเสบ หรืออยู่ใกล้ชิด เพราะเชื้อแบคทีเรียสามารถกระจายออกจากผู้ป่วยต่อมทอนซิลได้ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวของโรคประมาณ 2 – 4 วัน แต่ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียสเตรปโธรทจะมีระยะฟักตัวสั้นเพียง 12 ชั่วโมง

ภาวะแทรกซ้อนต่อมทอนซิลอักเสบ

กลุ่มที่มีสาเหตุจากไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนผู้ที่เป็นไข้หวัด  ไข้หวัดใหญ่  อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ  ปอดอักเสบ เป็นต้น รวมทั้งการบวมอักเสบของต่อมทอนซิลบ่อยครั้งหรือเรื้อรังอาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น เกิดการหายใจลำบาก ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การติดเชื้อที่แพร่ลึกลงไปสู่เนื้อเยื่อโดยรอบ รวมถึงการติดเชื้อที่ส่งผลให้มีฝีที่ทอนซิล หรือหนองลุกลามสะสมที่ด้านหลังของลำคอและอวัยวะข้างเคียงได้ เด็กที่ป่วยเป็นทอนซิลอักเสบจากแบคทีเรียสเต็ปโตคอคคัส (Streptococcus) แต่ไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาด้วยยาปฏิชีวนะแล้วได้รับยาไม่ครบตามกำหนด อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรงแต่พบได้ไม่บ่อย เช่น เด็กที่ป่วยเป็นโรคไข้รูมาติก ซึ่งจะส่งผลต่อหัวใจ ข้อต่อ และเนื้อเยื่ออื่น ๆ และการอักเสบของกรวยไตจากการติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว

การป้องกันทอนซิลอักเสบ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือคลุกคลีกับผู้ป่วยที่เป็นต่อมทอนซิลอักเสบ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ดูแลตัวเองตามลักษณะสุขอนามัยที่ดี
  • หมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน หรืออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคที่ดี

ภาพรวมของต่อมทอนซิลอักเสบ

หากต่อมทอนซิลบวมอาจทำให้หายใจลำบาก ส่งผลให้นอนหลับยาก หากไม่รักษาต่อมทอนซิลอักเสบตั้งแต่แรกเริ่มอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ และเชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงต่อมทอนซิล อาการต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียสามารถหายได้ในระยะเวลาไม่กี่วัน หากผู้ป่วยรักษาด้วยการกินยาปฏิชีวนะ

คำถามที่พบบ่อย

ต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บไหม ต่อมทอนซิลของคุณจะแดงและบวม และคอของคุณอาจเจ็บปวดมาทำให้กลืนลำบาก ในบางกรณี ต่อมทอนซิลจะเคลือบหรือมีจุดสีขาวที่เต็มไปด้วยหนอง อาการทั่วไปอื่นๆ ของต่อมทอนซิลอักเสบ ได้แก่ อุณหภูมิ (ไข้) สูงเกิน 38C  ต่อมทอนซิลอักเสบเจ็บมากขึ้นในตอนกลางคืนหรือไม่  เสมหะที่มากเกินไปในลำคออาจทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง และเจ็บได้ น้ำมูกไหลลงคอมักจะเพิ่มขึ้นเมื่อคนๆ หนึ่งนอนราบ เป็นผลให้อาการเจ็บคออาจแย่ลงในตอนกลางคืนหรืออย่างแรกในตอนเช้า ต่อมทอนซิลอักเสบจะหายไปเองหรือไม่  ต่อมทอนซิลอักเสบคือการติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคอและต่อมทอนซิลบวม สามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย แต่พบมากที่สุดในเด็กเล็ก โดยปกติแล้วจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่วัน ต่อมทอนซิลอักเสบห้ามกินอะไร 
  • อาหารแห้ง. การบริโภคอาหารแห้งอาจเป็นเรื่องยากหากคุณมีต่อมทอนซิลอักเสบ 
  • อาหารทอด. ต้องหลีกเลี่ยงอาหารทอดหากคุณมีต่อมทอนซิลอักเสบ 
  • อาหารขยะ. อาหารขยะมักเป็นของทอดหรือแห้ง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ควรหลีกเลี่ยงหากคุณมีต่อมทอนซิลอักเสบ …
  • อาหารรสเผ็ด 
  • แอลกอฮอล์ 
  • ผลไม้และผักดิบ 
  • มะเขือเทศ 
  • เครื่องดื่มอัดลม 
น้ำเย็นดีต่อต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่  เคล็ดลับต่อไปนี้อาจช่วยให้คอของคุณรู้สึกดีขึ้น: ดื่มของเหลวเย็น ดื่มของเหลวและส่วนใหญ่อุ่น  (ไม่ร้อน) ของเหลวรสจืด ไอศกรีมดีต่อต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่  อาหารเย็น เช่น ไอศกรีมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและลดอาการอักเสบ ย้ำอีกครั้งว่าให้ใช้ช้อนเดียว เพราะน้ำตาลที่มากเกินไปอาจไปขัดขวางประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน Strepsils ดีสำหรับต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่  Travelpharm มี Strepsils หลายชนิดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บคอและการติดเชื้ออื่นๆ เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ Strepsils Triple Action Lozenges กำหนดเป้าหมาย 3 อาการที่พบบ่อยที่สุดของอาการเจ็บคอ โดยบรรเทาอาการปวด ต่อสู้กับการติดเชื้อ และบรรเทาอาการปวด ควรกินอะไรถ้าต่อมทอนซิลอักเสบ  อาหารที่กินกับต่อมทอนซิลอักเสบควรเป็นอาหารอ่อนและกลืนง่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อคุณมีอาการเจ็บคอ เพราะอาหารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้น้อยกว่า อาหารอ่อน ได้แก่ มันบด พาสต้าปรุงสุก สตูว์ ซุป ผักปรุงสุก สมูทตี้ ไข่กวน ผลไม้เนื้อ นิ่มเช่น กล้วย และอาหารประเภทเส้น เครื่องดื่มอะไรที่ทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบแย่ลง  แอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟเป็นยาขับปัสสาวะ หมายความว่าอาจทำให้คุณขาดน้ำได้ เป็นผลให้คอของคุณอาจระคายเคืองและเจ็บในที่สุด ลองงดเครื่องดื่มเหล่านี้หรือเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนต่ำ ช็อกโกแลตดีต่อต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่  สำหรับอาการเจ็บคอและไอ ให้ลองอมช็อกโกแลตสักชิ้นแล้วอมไว้ในปาก เพื่อให้ช็อกโกแลตค่อยๆ ละลายและเคลือบคอ ช็อกโกแลตทำงานคล้ายกับน้ำผึ้งในการทำให้เส้นประสาทที่กำเริบในลำคอลดลง

ลิ้งค์ด้านล่างเป็นแหล่งข้อมูลบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tonsillitis/symptoms-causes/syc-20378479 
  • https://www.nhs.uk/conditions/tonsillitis/ 
  • https://kidshealth.org/en/parents/tonsillitis.html 
  • https://patient.info/ears-nose-throat-mouth/sore-throat-2/tonsillitis 
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด