เบาจืดคืออะไร
โรคเบาจืด (Diabetes Insipidus) เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเมื่อไตของคุณไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ทั้งนี้โรคเบาจืดไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานทั่วไป ดังนั้นจึงหมายความว่าคุณสามารถเป็นโรคเบาจืดได้โดยไม่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาจืดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โรคเบาจืดทำให้เกิดอาการกระหายน้ำอย่างรุนแรงและปัสสาวะบ่อย โรคเบาจืดมีหลายประเภทและสามารถรักษาได้ตามปกติ อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคเบาจืดโรคเบาจืดคืออะไร
อาการหลักของโรคเบาจืดได้แก่อาการกระหายน้ำอย่างรุนเเรงเนื่องจากไม่สามารถควบคุมความกระหายน้ำได้และมีอาการปัสสาวะปริมาณมาก โดยปกติผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรปัสสาวะอย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาจืดอาจปัสสาวะมากถึง 16 ลิตรต่อวัน คุณอาจตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยๆหรือเคยมีประสบการณ์ปัสสาวะรดที่นอน อาการของโรคเบาจืดทั่วไปที่เกิดในทารกและเด็กเล็กได้แก่- เกิดอารมณ์โมโหและหงุดหงิดง่าย
- ปัสสาวะใส่ผ้าอ้อมมากผิดปกติหรือฉี่รดที่นอน รวมถึงปัสสาวะมากเกินไป
- กระหายน้ำอย่างรุนเเรง
- ขาดน้ำ
- มีไข้สูง
- ผิวแห้ง
- เติบโตช้า
โรคเบาจืด 4 ประเภท
โรคเบาจืดมี 4 ประเภทได้แก่:โรคเบาจืดที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง
โรคเบาจืดชนิดนี้พบได้เป็นส่วนมากและเป็นโรคที่ทำให้เกิดจากความเสียหายกับต่อมใต้สมองและสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ทำให้สมองไม่สามารถผลิตและกักเก็บรวมถึงหลั่งฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก (ADH) ออกมาตามปกติ เมื่อร่างกายไม่มีฮอร์โมนแอนติไดยูเรติกจึงส่งผลทำให้เกิดการขับปัสสาวะออกมามากกว่าปกติ โรคเบาจืดประเภทนี้เกิดจากสาเหตุดังจ่อไปนี้- การบาดเจ็บที่ศีรษะ
- โรคที่ทำให้เกิดสมองบวม
- การผ่าตัด
- เนื้องอก
- ขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงที่ต่อมใต้สมอง
- โรคทางพันธุกรรม (พบได้น้อยมาก)
โรคเบาจืดที่เกิดจากความผิดปกติของไต
ความผิดปกติทางพันธุกรรมบางประเภทสามารถทำลายไตได้และส่งผลทำให้ไตไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก นอกจากนี้โรคเบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติของไตเกิดจาก- การใช้ยาเช่นยาลิเทียม (lithium) หรือยาเตตร้าไซคลิน
- ระดับแคลเซียมในร่างกายสูง
- ระดับโพแทสเซียมในร่างกายต่ำ
- โรคไตเรื้อรัง
- กระเพาะปัสสาวะอุดตัน
โรคเบาจืดชนิดที่เกิดจากความผิดปกติในการกระหายน้ำ
โรคเบาจืดชนิดนี้เกิดจากการทำงานผิดปกติของกลไกการกระหายน้ำในต่อมฮิปโปทาลามัส ส่งผมทำให้เกิดอาการกระหายน้ำอย่างรุนเเรงและต้องดื่มน้ำปริมาณมาก โรคเบาจืดชนิดนี้มีสาเหตุเดียวกันกับโรคเบาจืดชนิดที่เกิดจากความผิดปกติของสมองและมีความเกี่ยวข้องกับอาการป่วยทางจิตบางประเภทและการใช้ยาบางชนิดเช่นกันโรคเบาจืดที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
โรคเบาจืดชนิดนี้เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งเกิดจากการที่เอนไซม์ที่ผลิตโดยรกในครรภ์เข้าไปทำลายฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก (ADH) นอกจากนี้ยังมีสาเหตุเกิดจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นจนเป็นสารเคมีอันตรายที่ทำให้ไตเกิดภาวะอ่อนไหวต่อฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก รกในครรภ์มีบทบาทสำคัญในการหล่อเลี้ยงอาหารให้แก่ทารกและเป็นทางขับถ่ายของเสีย โรคเบาจืดชนิดนี้สามารถหายได้หลังจากคลอดบุตรเเล้วอาการของโรคเบาจืด
โรคเบาจืดเป็นโรคที่พบไม่บ่อยซึ่งส่งผลต่อการควบคุมสมดุลของของเหลวในร่างกาย สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ โรคเบาหวานเบาจืดแตกต่างจากภาวะทั่วไป นั่นคือ เบาหวาน (เบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2) ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาการผลิตและการใช้อินซูลินที่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ในโรคเบาจืด อาการหลักคือกระหายน้ำมากเกินไปและปัสสาวะมากเกินไป อาการเฉพาะอาจรวมถึง:- Polydipsia : หมายถึงความกระหายน้ำอย่างรุนแรงและความต้องการดื่มน้ำอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่เป็นเบาจืดมักรู้สึกว่าไม่สามารถดับกระหายได้ไม่ว่าจะดื่มมากแค่ไหนก็ตาม
- Polyuria : การปัสสาวะมากเกินไปเป็นจุดเด่นของโรคเบาหวานเบาจืด บุคคลสามารถผลิตปัสสาวะได้ในปริมาณมากผิดปกติ ซึ่งมักจะหลายลิตรต่อวัน สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายไม่สามารถควบคุมสมดุลของของเหลวได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำมากเกินไปผ่านทางปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อยกลางคืน : ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเบาจืดอาจต้องตื่นหลายครั้งในตอนกลางคืนเพื่อปัสสาวะ
- ภาวะขาดน้ำ : หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม การสูญเสียน้ำมากเกินไปผ่านทางปัสสาวะอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ สัญญาณของการขาดน้ำอาจรวมถึงปากแห้ง ผิวแห้ง เหนื่อยล้า และเวียนศีรษะ
- ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ : เนื่องจากการปัสสาวะมากเกินไปอาจทำให้สูญเสียอิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียมและโพแทสเซียม บุคคลที่เป็นเบาจืดอาจพบอาการที่เกี่ยวข้องกับความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนแรง และสับสน
- ความหงุดหงิดและความเหนื่อยล้า : กระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง ปัสสาวะบ่อย และอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ อาจทำให้เกิดอาการหงุดหงิดและเหนื่อยล้าได้
โรคเบาจืดมีวิธีการรักษาอย่างไร
การรักษาโรคเบาจืดขึ้นอยู่กับประเภทของโรคเบาจืดที่วินิจฉัยพบและความรุนเเรงของโรค สำหรับโรคเบาจืดที่ไม่รุนเเรง แพทย์จะเเนะนำให้บริหารปริมาณของการดื่มน้ำเพื่อให้ถึงปริมาณที่กำหนดต่อวันการรักษาด้วยวิธีฮอร์โมนบำบัด
วิธีรักษาส่วนใหญ่สำหรับโรคเบาจืดทุกประเภทคือการใช้ฮอร์โมนเดสโมเพรสซิน (DDAVP) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ขึ้น ซึ่งสามารถใช้รับประทานและสเปรย์พ่นจมูกหรือฉีดเข้าร่างกาย ฮอร์โมนเดสโมเพรสซินเกิดจากการสังเคราะห์ฮอร์โมนวาโซเพรสซิน ในขณะที่การทานยาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำเป็นประจำและควรดื่มน้ำตอนที่กระหายน้ำเท่านั้น โดยปกติฮอร์โมนเดสโมเพรสซินนำมาใช้รักษาโรคเบาจืดที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง แต่สามารถนำมาใช้รักษาโรคเบาจืดที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์อย่างรุนเเรงได้เช่นกันยาและการใช้ยา
การรักษาโรคเบาจืดที่เกิดจากความผิดปกติของไตจะทำการรักษาปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับวิธีการรักษาอื่นๆด้แก่การทานฮอร์โมนเดสโมเพรสซินปริมาณมากร่วมกับการใช้ยาชนิดอื่นเช่นยาขับปัสสาวะหรือทานเพียงยาแอสไพรินเเละยาไอบลูโพรเฟน รวมถึงยาประเภทอื่นๆในกลุ่มเดียวกันเช่นยาอินโดเมทาซิน (TIVORBEX) เมื่อยายาเหล่านี้เเล้ว ควรดื่มน้ำตามให้มากๆหรือดื่มน้ำตอนที่คุณกระหายเท่านั้น ถ้าหากโรคเบาจืดเกิดจากการทานยาที่คุณใช้อยู่ แพทย์จะแนะนำให้หยุดใช้ยาชนิดนั้นและเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่น แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรหยุดใช้ยาเอง โดยไม่ปรึกาาแพทย์ก่อนการรักษาตามอาการ
ถ้าหากโรคเบาหวานเกิดจากปัจจัยอื่นๆเช่น เนื้องอกหรือปัญหาเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง แพทย์จะทำการรักษาอาการที่เกิดขึ้นก่อนและทำการรักษาโรคเบาจืดเป็นลำดับถัดไป ถ้าจำเป็น โรคเบาจืดไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะ โดยเบื้องต้นสามารถรักษาอาการที่เกิดขึ้นเเละปัญหาทางด้านจิตใจ เพื่อบรรเทาอาการต่างๆการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตและการทานอาหาร
การเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคเบาจืด สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันภาวะขาดน้ำ คุณสามารถพกขวดน้ำไปด้วยเพื่อดื่มระหว่างวันหรือให้เด็กที่เป็นโรคเบาจืดดื่มน้ำทุกๆชั่วโมง โดยแพทย์จะช่วยระบุปริมาณน้ำที่คุณจำเป็นต้องดื่มในแต่ละวัน การจดบันทึกเวลาการทานยาหรือสวมใสสายรัดข้อมือเพื่อเตือนว่าคุณมีภาวะเบาจืดสามารถช่วยให้ผู้อื่นทราบได้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามภาวะขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยโรคเบาจืดจำเป็นต้องทราบว่ามีคนเป็นโรคนี้บทสรุป
การรักษาโรคเบาจืดขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค ควรรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันภาวะเเทรกซ้อน โดยปกติโรคเบาจืดไม่ได้ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหรือภาวะเเทรกซ้อนในระยะยาวนี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes-insipidus/symptoms-causes/syc-20351269
- https://www.nhs.uk/conditions/diabetes-insipidus/
- https://www.niddk.nih.gov/health-information/kidney-disease/diabetes-insipidus
- https://www.webmd.com/diabetes/guide/what-is-diabetes-insipidus
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น