• ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • Login
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
No Result
View All Result
Home การติดเชื้อ

ปัสสาวะขุ่น (Urine Cloudy) : อาการ สาเหตุ การรักษา

by แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์
04/12/2020
in การติดเชื้อ, หาโรค
0
ปัสสาวะขุ่น
0
SHARES
186
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter
สารบัญ
  • สาเหตุปัสสาวะขุ่นโดยทั่วไป
  • การป้องกัน
4.6 / 5 ( 13 votes )

หากปัสสาวะขุ่น (Urine Cloudy) อาจหมายความว่ามีบางอย่างผิดปกติกับทางเดินปัสสาวะ แม้ว่าปัสสาวะขุ่นจะเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ แต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง

ปัสสาวะขุ่นอาจเกิดจาก:

  • การขาดน้ำ
  • ภาวะติดเชื้อ
  • ปัญหาไต
  • โรคเรื้อรังบางชนิด

บทความนี้จะบอกถึงสาเหตุปัสสาวะขุ่นในชายและหญิง

Urine Cloudy

สาเหตุปัสสาวะขุ่นโดยทั่วไป

การขาดน้ำ

ปัสสาวะสีเข้มและขุ่นมักเกิดจากการขาดน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่จะได้รับ โดยพบได้บ่อยในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง แต่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงหลายคนมีอาการขาดน้ำเล็กน้อยในตอนเช้า และหลังออกกำลังกายอย่างหนัก

เมื่อขาดน้ำร่างกายจะกักเก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด นั่นทำให้ปัสสาวะจะมีความเข้มข้นสูงและมีสีเข้มกว่าปกติ

อาการของการขาดน้ำได้แก่

  • ปัสสาวะสีเข้มหรือขุ่นมัว
  • กระหายน้ำมาก
  • ปัสสาวะไม่บ่อย
  • เด็กจะพบว่าผ้าอ้อมแห้ง
  • ปากแห้ง
  • วิงเวียน
  • ปวดหัว
  • มึนงง

กรณีที่ร่างกายขาดน้ำเพียงเล็กน้อย เช่น เกิดในตอนเช้าคุณสามารถดื่มน้ำเยอะๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อชดเชยน้ำที่ขาดไปได้

หากเด็กๆ ป่วยด้วยอาการอาเจียนหรือท้องร่วงให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการรักษา เด็กที่ป่วยควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และมักจะสามารถรักษาได้ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ และอิเล็กโทรไลต์ (Pedialyte)

หากขาดน้ำอย่างรุนแรง หรือการดื่มน้ำปริมาณมากๆ ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์

ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยได้บ่อยในอาการปัสสาวะขุ่น UTIs คือการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ โดยจะส่งผลกระทบต่อท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และไต

UTI พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่าทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดจากอุจจาระได้ง่าย

UTI เกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียเติบโตอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และร่างกายส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวไปจัดการกับเชื้อเหล่านั้น เซลล์เหล่านี้จะถูกขับออกทางปัสสาวะ เมื่อเม็ดเลือดขาวผสมกับปัสสาวะจะมีสีขุ่นหรือสีเหมือนน้ำนม

อาการของการติดเชื้อในการเดินปัสสาวะได้แก่

  • ต้องออกแรงในการปัสสาวะ
  • ปัสสาวะที่มีสีขุ่น น้ำนม แดง ชมพูหรือน้ำตาล
  • ปัสสาวะมีกลิ่นแรงหรือมีกลิ่นเหม็น
  • รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ
  • ปวดหลังส่วนล่างหรือกลาง
  • ปวดปัสสาวะ แต่ปัสสาวะน้อย
  • ปวดท้องน้อยในผู้หญิง

UTIs จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันทีด้วยยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปแล้ว UTI สามารถรักษาได้ง่าย แต่หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้การติดเชื้อทวีความรุนแรง UTI ที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้

  • ไตได้รับความเสียหาย
  • การติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง
  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์
  • ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (อันตรายถึงชีวิต)

ช่องคลอดอักเสบ

ปัสสาวะขุ่นบางครั้งเกิดจากช่องคลอดอักเสบ ซึ่งช่องคลอดอักเสบคือ การติดเชื้อในช่องคลอดได้แก่

  • ติดเชื้อแบคทีเรีย
  • ติดเชื้อยีสต์
  • ติดเชื้อไตรโคโมแนส

ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย และการติดเชื้ออื่น ๆ เกิดขึ้นเมื่อมีการเจริญของแบคทีเรีย เชื้อราหรือเชื้อโรคจำนวนมาก

ช่องคลอดที่แข็งแรงโดยปกติจะรักษาสมดุลของแบคทีเรียได้ดี อย่างไรก็ตามในบางสถานการณ์ความสมดุลนี้จะหายไป ความไม่สมดุลนี้นำไปสู่การเติบโตของแบคทีเรีย และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในช่องคลอดที่เรียกว่า ภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย

ช่องคลอดอักเสบทำให้ปัสสาวะขุ่นเมื่อ เนื่องจากมีเม็ดเลือดขาวออกมาผสมกับปัสสาวะของคุณ

สัญญาณอื่น ๆ ของอาการช่องคลอดอักเสบ

  • อาการคัน ปวด หรือแสบรอบ ๆ ช่องคลอด
  • มีของเหลวไหลออกมาผิดปกติ
  • กลิ่นเหม็น
  • หลังมีเพศสัมพันธุ์มีกลิ่นคาวปลา
  • สีเหลือง สีเขียว สีเทาหรือสีคล้ายชีส
  • รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ

การรักษาช่องคลอดอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย และโรคพยาธิตัวจี๊ดจะได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดจะได้รับการรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา

หากปล่อยทิ้งช่องคลอดอักเสบไว้ไม่รักษา นั้นเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

นิ่วในไต

นิ่วในไตเกิดจากผลึกและเกลือที่ผิดปกติซึ่งก่อตัวขึ้นภายในทางเดินปัสสาวะ สิ่งเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างมาก และสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก

นิ่วในไตสามารถติดอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และการอุดตันได้ ปัสสาวะขุ่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีนิ่วในไต และสามารถนำไปสู่การติดเชื้อ

อาการของนิ่วในไตได้แก่

  • ปวดใต้ซี่โครงด้านข้างหรือด้านหลังอย่างรุนแรง
  • ปวดท้องน้อยและขาหนีบ
  • ปวดขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะสีชมพู แดงหรือน้ำตาล
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น

นิ่วในไตส่วนใหญ่จะดีขึ้นได้เองโดยไม่ต้องรักษา แพทย์จะให้ยาแก้ปวด เพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นในขณะที่คุณทำงาน เพื่อล้างนิ่วออกจากร่างกาย (ด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ )

นิ่วขนาดใหญ่ หรือนิ่วที่นำไปสู่การติดเชื้อ จำเป็นต้องได้รับการขจัดออกไปจากร่างกาย โดยใช้คลื่นเสียงหรืออาจผ่าตัดเพื่อนำออก การติดเชื้อจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ

โรคไตจาก เบาหวานหรือความดันโลหิตสูง

โรคไตเรื้อรังส่วนใหญ่เกิดจากโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรังเกิดขึ้นนันจะมีระยะ และการลุกลามของโรคไตเรื้อรังอาจทำให้ไตวายได้ ไตวายเกิดขึ้น เมื่อไตทำงานลดลงต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์จากปกติ

ไตมีหน้าที่กรองของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย เมื่อไตทำงานไม่ปกติทำให้เกิดการสะสมของเสีย และขัดขวางสมดุลของเกลือและแร่ธาตุในกระแสเลือด เนื่องจากไตมีหน้าที่หลักในการผลิตปัสสาวะ การเปลี่ยนแปลงการทำงานของไตจึงทำให้สีหรือกลิ่นของปัสสาวะเปลี่ยนไปได้

อาการของไตวายได้แก่

  • ขา ข้อเท้าและเท้ามีอาการบวม
  • ปวดศีรษะ
  • อาการคัน
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • เหนื่อยล้าระหว่างวัน พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ได้แก่ เบื่ออาหารและน้ำหนักลดอย่างไม่มีสาเหตุ
  • ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนแรง
  • ปัสสาวะน้อยหรือไม่มีเลย
  • ปวดหรือตึงในข้อต่อของคุณ
  • มึนงง ปัญหาทางสติปัญญา

ไตวายเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรง แต่สามารถจัดการได้ ทางเลือกในการรักษา ได้แก่ การฟอกเลือด และการปลูกถ่ายไต ในระหว่างการฟอกเลือดเลือดจะไหลเวียนผ่านตัวกรองภายนอกซึ่งทำงานเหมือนไตเทียม

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) คือ การติดเชื้อที่สามารถส่งผ่านจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งได้ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยๆ เช่น หนองใน และหนองในเทียม มีอาการเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับการติดเชื้ออื่น ๆ (ช่องคลอดอักเสบ และ UTIs) เม็ดเลือดขาวจะตอบสนองต่อบริเวณที่ติดเชื้อ ทำให้เมื่อปัสสาวะแล้วเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะผสมกับปัสสาวะทำให้มีปัสสาวะลักษณะขุ่น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดการตกขาวหรือความผิดปกติของอวัยวะเพศ ซึ่งอาจออกมาปนกับปัสสาวะ และทำให้ปัสสาวะมีสีขุ่นได้

อาการของการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ได้แก่

  • คันอวัยวะเพศ
  • แสบร้อนระหว่างการถ่ายปัสสาวะ
  • ผื่นหรือแผลพุพอง หรือหูด
  • ปวดอวัยวะเพศ
  • ปวดท้องน้อยในผู้หญิง
  • ปวดระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์

การรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคนั้นๆ ยาปฏิชีวนะเป็นวิธีการรักษาที่พบบ่อยที่สุด เมื่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้รับการรักษาสำหรับผู้หญิงอาจทำให้เกิดปัญหาการเจริญพันธุ์ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานที่รุนแรง และภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ในผู้ชายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถนำไปสู่การติดเชื้อของต่อมลูกหมากและส่วนอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์

เบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ทำให้ไตต้องทำงานหนักกว่าปกติ เพื่อกรองน้ำตาลนี้ออกไป และน้ำตาลนี้จะถูกขับออกทางปัสสาวะ

โรคเบาหวานทำให้ไตเครียด และสามารถนำไปสู่โรคไต โรคไตจะได้รับการวินิจฉัยด้วยการพบโปรตีนบางชนิดในปัสสาวะ โดยโปรตีนเหล่านี้ ทำให้สี และกลิ่นของปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป

อาการทั่วไปของโรคเบาหวาน ได้แก่

  • กระหายน้ำอย่างมาก
  • ปัสสาวะบ่อย
  • เหนื่อยล้า
  • น้ำหนักลดลง
  • แผลหายช้า
  • การติดเชื้อบ่อยครั้ง

โรคเบาหวานประเภท 2 สามารถรักษาได้ด้วยยา อาหาร และการลดน้ำหนัก โรคเบาหวานประเภท 1จำเป็นต้องใช้อินซูลิน ความเสี่ยงของความเสียหายของไตจะลดลงเมื่อมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติอย่างเข้มงวด

การรับประทานอาหาร

การดื่มนมที่มากเกินไปส่งผลให้ปัสสาวะขุ่นได้ ผลิตภัณฑ์นมมีแคลเซียมฟอสเฟต ไตมีหน้าที่กรองฟอสฟอรัสออกจากเลือด ดังนั้นฟอสฟอรัสส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ

เมื่อฟอสฟอรัสถูกขับออกทางปัสสาวะ ฟอสฟอรัสในปัสสาวะอาจทำมห้สีของปัสสาวะขุ่นมัว หากมีอาการนี้รุนแรงควรพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก

ปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก เช่น ต่อมลูกหมากอักเส ส่งผลให้ปัสสาวะขุ่นได้

Prostatitis คือ การอักเสบหรือการติดเชื้อของต่อมลูกหมากซึ่งเป็นต่อมที่อยู่ภายใต้กระเพาะปัสสาวะในผู้ชาย โดยมีทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง ปัสสาวะที่ขุ่นสามารถเกิดได้จากเม็ดเลือดขาว หนองหรืออวัยวะเพศชาย

อาการของต่อมลูกหมากอักเสบ ได้แก่ 

  • ปวดหรือแสบระหว่างถ่ายปัสสาวะ
  • ปัสสาวะลำบาก
  • ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  • ปัสสาวะมีเลือดปน
  • ปวดท้อง ขาหนีบ หรือหลังส่วนล่าง
  • ปวดอวัยวะเพศ
  • เจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่

การรักษาต่อมลูกหมากอักเสบจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ อาจจะเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะ อัลฟาบล็อกเกอร์ หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)

ภาวะตั้งครรภ์

ในระหว่างตั้งครรภ์ปัสสาวะขุ่นสามารถเกิดได้จาก UTI, STI หรือช่องคลอดอักเสบ โดยอาการเหล่านี้ก็จะเหมือนกับคนทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการติดเชื้อเหล่านี้สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการรักษา การติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้น้ำหนักของทารกแรกเกิดต่ำ เจ็บครรภ์ก่อนกำหนด และอาจเป็นการติดเชื้ออื่น ๆ ที่ร้ายแรงกว่า

บางครั้งโปรตีนในปัสสาวะเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ที่เป็นอันตราย โดยทั่วไปโปรตีนจะไม่ทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนไป แต่ถ้าระดับโปรตีนสูงมากสามารถทำให้ปัสสาวะมีฟองได้

โปรดเข้าพบแพทย์หากคุณอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ และมีสัญญาณของช่องคลอดติดเชื้อหรือภาวะครรภ์เป็นพิษ

การป้องกัน

มีสาเหตุหลายอย่างที่ทำให้ปัสสาวะมีสีขุ่น บางครั้งอาจไม่เป็นอันตราย แต่บางครั้งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ หากอาการนี้อยู่นานกว่า 2-3วัน ให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา โดยทั่วไปจำเป็นต้องมีการตรวจปัสสาวะ และเลือดเพื่อการวินิจฉัย


นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/324443
  • https://www.medicinenet.com/cloudy_urine/symptoms.htm
  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/urine-color/symptoms-causes/syc-20367333

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

Tags: ความเจ็บปวดแบคทีเรีย
แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เธอมีความเชื่อว่าผิวพรรณที่มีสุขภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ดังนั้นความตั้งใจของเธอคือต้องการช่วยให้ทุกคนมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี ปราศจากโรคทางผิวหนัง และแพทย์หญิงวิกานดาเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งมากคนหนึ่งในประเทศ

Next Post
โรคปีกมดลูกอักเสบ

ปีกมดลูกอักเสบ (Salpingitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

Please login to join discussion

บทความยอดนิยมของเรา

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • Erectile Dysfunction
  • รีวิวยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ประเภท

  • การติดเชื้อ
  • ครีมและเจล
  • จิตวิทยา
  • ซินโดรม
  • บทความสุขภาพ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มะเร็ง
  • หาโรค
  • อาการ
  • โภชนาการ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคตา
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคผิวหนัง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคระบบกล้ามเนื้อ
  • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
  • โรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคระบบประสาท
  • โรคระบบสืบพันธุ์
  • โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคในช่องปาก
  • โสตนาสิกลาริงซ์วิทยา

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์ Bupa.co.th รวบรวมบทความเกี่ยวกับโรคต่าง

นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ Bupa.co.th ยังส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาและนำเสนอบทความที่หลากหลายและมีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้อ่านอันเป็นที่รักของเราทุกคน

  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.