เจ็บลิ้น (Tongue problems) มีปัญหาหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นกับลิ้นได้แก่
ถ้าหากลิ้นของคุณมีขุยหรือขนเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุเกิดจากยาปฏิชีวนะบางประเภท การใช้รังสีที่บริเวณศีรษะหรือคอสามารถทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของลิ้นยังมีสาเหตุเกิดจากการดื่มกาแฟหรือน้ำยาบ้วนปากถ้าหากคุณไม่ได้เป็นคนสูบบุหรี่
- อาการเจ็บลิ้น
- แผลที่ลิ้น
- ลิ้นบวม
- การเปลี่ยนแปลงรสชาติ
- การเปลี่ยนแปลงสี
- การเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของลิ้น
อาการของเจ็บลิ้น
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้และเกี่ยวข้องกับปัญหาที่ลิ้นของคุณ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้และคุณอาจเคยเป็นเมื่อลิ้นของคุณมีปัญหาได้แก่อาการดังต่อไปนี้- สูญเสียการรับรสบางส่วนหรือทั้งหมดของลิ้นหรือความสามารถในการรับรสเปลี่ยนแปลงไปเช่นการรับรสเปรี้ยว เค็ม ขม หรือ หวาน
- ขยับลิ้นได้ลำบาก
- มีอาการลิ้นบวม
- การเปลี่ยนแปลงสีของลิ้นหรือตุ่มลิ้นเช่นลิ้นเปลี่ยนเป็น สีขาว ชมพูอ่อน สีดำหรือสีน้ำตาล
- มีอาการเจ็บทั่วลิ้นหรือเจ็บลิ้นบางส่วน
- รู้สึกแสบลิ้นทั้งที่บนลิ้นเเละใต้ลิ้นหรือบางจุดของลิ้น
- มีตุ่มพุพองสีขาวหรือสีแดงเกิดขึ้นที่ลิ้นโดยปกติมักทำให้รู้สึกเจ็บปวด
- มีขุยหรือขนเกิดขึ้นที่ลิ้น
สาเหตุของการเกิดปัญหาที่ลิ้น
อาการเจ็บลิ้นกรณีที่พิเศษ แพทย์สามารถช่วยวินิจฉัยหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับลิ้นได้สาเหตุของอาการแสบร้อนที่ลิ้น
อาการแสบร้อนที่ลิ้นอาจเกิดในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง นอกจากนี้ยังสามารถเกิดกับผู้ที่สัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองที่ลิ้นเช่นการสูบบุหรี่สาเหตุของปัญหาลิ้นเปลี่ยนสี
ลิ้นที่มีสีชมพูอ่อนมักเกิดจากการขาดแคลนธาตุเหล็ก กรดโฟลิกหรือวิตามินบี 12 นอกจากนี้การแพ้กลูเตนยังสามารถทำให้เกิดอาการนี้ได้ โดยปกติลิ้นสีขาวมักเกิดจากการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮลหรือการไม่รักษาความสะอาดภายในช่องปาก ตุ่มสีขาวที่เกิดขึ้นเป็นเส้นภายในช่องปากอาจเป็นการติดเชื้อที่เรียกว่าไลเคน พลานัส คนส่วนใหญ่คิดว่าอาการนี้เกิดขึ้นจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติหรือเกิดขึ้นจากโรคอย่างเช่นโรคไวรัสตับอักเสบชนิดซีหรือโรคภูมิเเพ้สาเหตุของพื้นผิวลิ้นที่เปลี่ยนแปลงไป
ถ้าหากลิ้นของคุณมีขุยหรือขนเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุเกิดจากยาปฏิชีวนะบางประเภท การใช้รังสีที่บริเวณศีรษะหรือคอสามารถทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของลิ้นยังมีสาเหตุเกิดจากการดื่มกาแฟหรือน้ำยาบ้วนปากถ้าหากคุณไม่ได้เป็นคนสูบบุหรี่
สาเหตุของอาการเจ็บลิ้น
โดยปกติอาการเจ็บลิ้นเกิดจากลิ้นเป็นแผลหรือการอักเสบติดเชื้อ ถ้าคุณกัดลิ้นอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ลิ้นอย่างรุนเเรงได้ การติดเชื้อที่ลิ้นไม่ใช้อาการที่เกิดขึ้นตามปกติทั่วไปและการอักเสบติดเชื้อนี้สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและระคายเคืองได้ ตุ่มรับรสอักเสบหรือการอักเสบที่ตุ่มรับรสเป็นอาการเจ็บปวดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นหลังจากการกัดลิ้นหรืออาหารร้อนลวกลิ้น แผลร้อนในที่ลิ้นเป็นอีกหนึ่งอาการเจ็บปวดทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ทั้งบนลิ้นหรือใต้ลิ้น โดยแผลร้อนในมีลักษณะเป็นแผลขนาดเล็ก มีสีขาวหรือสีเหลืองและทำให้รู้สึกเจ็บปวด โดยแผลร้อนในที่ลิ้นเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ตามแผลร้อนในไม่เหมือนเริมที่มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ในหลายกรณีส่วนใหญ่แผลร้อนเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุและสามารถหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรักษา ความผิดปกติอื่นๆที่มักเกิดขึ้นกับลิ้นและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ลิ้นได้แก่โรคมะเร็ง โรคโลหิตจาง เริมในที่ปากและการระคายเคืองจากอุปกรณ์ทันตกรรมเช่นการใส่เหล็กดัดฟัน โรคเกี่ยวกับเส้นประสาทเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ลิ้นได้เช่นกันและอาการเจ็บปวดมักเกิดขึ้นอย่างรุนเเรงเมื่อเกิดความเสียหายกับเส้นประสาทหรือเกิดขึ้นจากปัจจัยอื่นๆได้แก่- อายุ
- โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- โรคเบาหวาน
- ก้อนเนื้องอก
- การติดเชื้อ
สาเหตุของอาการลิ้นบวม
อาการลิ้นบวมเป็นอาการของโรคใดๆโรคหนึ่งได้แก่- อาการดาวน์ซินโดรม
- มะเร็งที่ลิ้น
- กลุ่มอาการเบ็ควิท-ไวเดอมานน์
- ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป
- โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
- คออักเสบ
- โรคโลหิตจาง
เจ็บลิ้นสามารถวินิจฉัยได้อย่างไร ?
คุณควรนัดเข้าพบเเพทย์เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลิ้นและทำการรักษาต่อไป ถ้าหากคุณมีปัญหาที่ลิ้นอย่างเช่นเจ็บลิ้นอย่างรุนเเรง ไม่สามารถอธิบายสาเหตุของอาการเเสบลิ้นได้หรือมีเจ็บลิ้นและเป็นแผลเป็นเวลาหลายสัปดาห์เเละไม่มีอาการหายดีขึ้น คุณควรไปพบเเพทย์เมื่อมีปัญหาดังต่อไปนี้เกิดขึ้นได้แก่- มีอาการเจ็บลิ้นมากกว่าปกติซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน
- มีอาการเจ็บลิ้นเกิดขึ้นบ่อยซ้ำๆ
- มีแผลเกิดขึ้นที่ลิ้นซ้ำๆ
- มีอาการเจ็บลิ้นเกิดขึ้นมากกว่า 2 สัปดาห์และไม่มีอาการหายดีขึ้น
- มีอาการเจ็บปวดที่ลิ้นซึ่งไม่สามารถรักษาด้วยการซื้อยาใช้เองหรือดูแลด้วยตนเอง
- มีอาการเจ็บลิ้นเเละมีไข้สูง
- ทานอาหารเเละดื่มเครื่องดื่มได้ลำบาก
- คุณมีอาการเจ็บลิ้นเกิดขึ้นนานเท่าไหร่
- ความสามารถในการรับรสของคุณเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
- อาการเจ็บปวดของคุณเป็นอย่างไร
- คุณขยับลิ้นได้ลำบากหรือไม่
- คุณมีปัญหาอื่นๆภายในช่องปากอีกหรือไม่
การรักษาปัญหาที่ลิ้นด้วยตัวเองที่บ้าน
คุณสามารถป้องกันหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดที่ลิ้นได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปากเข่นการแปรงฟันให้สะอาดและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำรวมถึงไปพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสอบสุขภาพในช่องปากและความสะอาดการรักษาแผลร้อนในหรือลิ้นเป็นแผลที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในช่องปาก
ถ้าหากคุณมีแผลร้อนในหรือแผลที่ลิ้นเนื่องจากอาการบาดเจ็ยภายในช่องปาก คุณควรปฏิบัติตนด้วยวิธีดังต่อไปนี้- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ร้อนและเผ็ด
- พยายามดื่นเครื่องดื่มที่เย็นและทานอาหารรสจืดและมีลักษณะอ่อนนุ่มจนกระทั่งแผลที่ลิ้นหายดี
- คุณสามารถซื้อยาทาเพื่อรักษาอาการเจ็บลิ้นเองได้
- คุณสามารถบ้วนปากด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำผสมเกลือเล็กน้อยหรือเบคกิ้งโซดา
- คุณสามารถนำน้ำเเข็งประคบบริเวณที่เจ็บปวดได้
อาหารที่ควรรับประทาน
โดยทั่วไปแล้ว คุณจะต้องรับประทานอาหารที่อ่อน ไม่เป็นกรด ไม่เผ็ด และไม่ร้อนเกินไปหากคุณพบปัญหาที่ลิ้น ในบรรดาอาหารที่แนะนำ ได้แก่:- ไข่คน ไข่ลวก หรือไข่ต้ม
- ปลาทูน่ากระป๋อง
- เนื้อตุ๋น
- เส้นบะหมี่นุ่มและพาสต้า
- ข้าวขาวหุงสุกดี
- ผักบด รวมทั้งมันฝรั่ง มันเทศ ถั่วลันเตา แครอท ฯลฯ
- ครีมผักโขมหรือข้าวโพด
- ซุปครีมหรือน้ำซุปข้น
- ถั่วอบ
- เต้าหู้
- ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต และคอทเทจชีส
- ขนมปังขาวนุ่ม
- ธัญพืชปรุงสุก เช่น ครีมข้าวสาลีหรือข้าวโอ๊ตบดละเอียด
- แพนเค้ก
- แอปเปิ้ลบด
- กล้วย
- แตงโม แคนตาลูป มะละกอ และแตงโมน้ำหวาน
- ผลไม้เนื้อนิ่มที่มีผิวบาง เช่น ลูกพีชและเนคทารีน
- ผลไม้ตุ๋นหรืออบ
- เนยถั่วเรียบ
- คัสตาร์ดและพุดดิ้ง
- ขนมเจลาติน
- ไอติมแท่ง ไอศกรีม และโฟรเซ่นโยเกิร์ต
- โปรตีนเชค สมูทตี้ และอาหารเสริมแบบน้ำ
- ชาปราศจากคาเฟอีน
- น้ำผลไม้ที่ไม่เป็นกรด เช่น น้ำแอปเปิ้ลหรือน้ำหวานจากผลไม้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
มีอาหารบางชนิดที่อาจทำให้อาการเจ็บลิ้นรุนแรงขึ้นและทำให้อาการปวดแย่ลงได้ ควรระวังประเภทของอาหารที่คุณควรหลีกเลี่ยง ได้แก่:- เนื้อที่มีความเหนียว
- ผักดิบหรือสุก
- ขนมปังเนื้อแข็งหรือเหนียว เช่น เบเกิล
- อาหารกรุบกรอบ เช่น เพรทเซล แครกเกอร์ มันฝรั่งทอด หรือซีเรียลแห้ง
- ทาร์ตหรืออาหารที่เป็นกรด รวมทั้งมะเขือเทศและผลไม้รสเปรี้ยว
- อาหารรสเค็มหรือเผ็ด
- ถั่วหรือเมล็ดพืช
- ผลไม้เนื้อแข็งหรือเป็นเส้น เช่น แอปเปิ้ลหรือมะม่วงดิบ
- ผลไม้ที่มีเปลือก เช่น ลูกพลัม
- ผลไม้ที่มีเมล็ดน้อย เช่น สตรอเบอร์รี่ ที่สามารถติดเป็นแผลได้
- อาหารร้อน รวมถึงซุปและเครื่องดื่มร้อน
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ได้แก่ กาแฟ ชาดำ และโคล่า
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เบียร์ ไวน์ และสุรา
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.medicinenet.com/tongue_problems/article.htm
- https://www.webmd.com/oral-health/ss/slideshow-mouth-problems
- https://medlineplus.gov/ency/article/003047.htm
- https://www.hopkinsscleroderma.org/scleroderma/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ยาแก้ปวดฟัน (Tooth Pain Reliver)
อาการเสียวฟัน (Sensitive Teeth) – อาการ สาเหตุ การรักษา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการอุดฟัน (Facts About Dental Fillings)
ลิ้นแตก (Fissured Tongue)
การทำที่ครอบฟัน (Dental Crown Procedure)
การดูแลรักษาฟันปลอม (Caring for Dentures)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น