หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia) เกิดจากอะไร

หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia) คือภาวะผิดปกติที่หัวใจเต้นเร็วกว่า 100 ครั้งต่อนาที โดยแบ่งหัวใจเต้นเร็วเป็น 3 ประเภทดังนี้:
  • หัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องบน(Supraventricular Tachycardia) เกิดขึ้นเมื่อการส่งสัญญาณไฟฟ้าในห้องหัวใจด้านบนของอวัยวะผิดพลาด และทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น โดยเต้นเร็วมากกว่าอัตราการเต้นของหัวใจปกติ
  • หัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องล่าง(Ventricular Tachycardia) คือ ภาวะที่หัวใจห้องล่างนั้นมีอัตราการเต้นหัวใจที่เร็วมากในหัวใจห้องล่าง เกิดขึ้นเมื่อการส่งสัญญาณไฟฟ้าในหัวใจห้องล่างผิดพลาด และส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วมากจนไม่สามารถเติมเลือดได้ทัน
  • หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ (Sinus tachycardia)  เกิดขึ้นเมื่อสัญญาณกระตุ้นการเต้นของหัวใจนั้นนั้นเร็วกว่าปกติ แต่ก็ยังอยู่ในภาวะที่หัวใจสามารถทำงานได้

อาการหัวใจเต้นเร็ว

หัวใจเต้นเร็วอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดังต่อไปนี้: ในกรณีที่รุนแรงอาจะทำให้ผู้ป่วยหมดสติ หรือเข้าสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้น แต่บางครั้งอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็ว ก็ไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ เลย

หัวใจเต้นเร็วเกิดจากอะไร

  • การออกกำลังกายที่หักโหม ความกลัวความเครียด(stress) ความวิตกกังวล(anxiety) ยารักษาบางชนิด และยาเสพติด สามารถนำไปภาวะหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ (Sinus tachycardia) นอกจากนี้สามารถเกิดจากโรคโลหิตจาง โรคไทรอยด์  หัวใจวายหรือหัวใจล้มเหลว
  • หัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องบน(Supraventricular Tachycardia) พบในผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนปริมาณมาก อาจจะพบในภาวะหัวใจวาย(heart attack) และมักจะพบมากในผู้หญิงและเด็ก
  • หัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องล่าง(Ventricular Tachycardia) เกิดจากสัญญาณไฟฟ้าในห้องหัวใจที่ผิดปกติซึ่งเป็นความผิดปกติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นปัญหาอันเกิดจากโครงสร้างหัวใจ เช่น Cardiomyopathy หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ ยารักษาบางชนิด หรือความไม่สมดุลของสัญญาณไฟฟ้าในหัวใจ หรืออาจจะเกิดแบบหาสาเหตุไม่ได้

การตรวจสอบหัวใจเต้นเร็ว

Tachycardia การทดสอบหัวใจเต้นเร็วอาจประกอบไปด้วยวิธีดังนี้ :
  • อิเล็คโทรคาร์ดิโอแกรม Electrocardiogram (ECG or EKG) การทดสอบนี้จะบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้าในหัวใจของผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้แพทย์ให้ความผิดปกติของการเต้นของหัวใจผู้ป่วย ผู้ป่วยจำเป็นต้องติดตั้งเครื่องพกพาที่บันทึกสัญญาณ ECG ตลอด 24 ชั่วโมง
  • การทดสอบด้วยการออกกำลัง Exercise stress test แพทย์จะให้ผู้ป่วยทดลองเดินเร็วบนเครื่องออกกำลังกาย และดูการเต้นของหัวใจผู้ป่วย
  • วัดสนามแม่เหล็กหัวใจ Magnetic source imaging เป็นการทดสอบวัดสนามแม่เหล็กของกล้ามเนื้อหัวใจ และค้นหาจุดที่อ่อนแอของหัวใจ

การรักษาหัวใจเต้นเร็ว

แพทย์จะตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด หลังจากที่ผู้ป่วยผ่านการทดสอบต่างๆแล้ว หากผู้ป่วยมีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ (Sinus tachycardia) แพทย์จะหาสาเหตุและแนะนำสิ่งต่าง ๆ เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ อาจรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ป่วย เช่นการผ่อนคลายความเครียด หรือรับประทานยาลดไข้ หากผู้ป่วยมีอาการหัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องบน(Supraventricular Tachycardia) แพทย์จะแนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีนลดลง รวมทั้งให้เลิกสูบบุหรี่ หากมีอาการหัวใจเต้นเร็วที่พบในหัวใจห้องล่าง(Ventricular Tachycardia) แพทย์จะให้ยาเพื่อรีเซ็ตสัญญาณไฟฟ้ โดยแพทย์อาจใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจรักษา โดยใช้เครื่องกระตุ้นขัดขวางจังหวะการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วในบางกรณีไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่บางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการหัวใจเต้นเร็วเพื่อวินิจฉัย และหาวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง

อาหารสำหรับผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็ว

เครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน

การใช้สารกระตุ้นอาจเป็นสาเหตุของอาการหัวใจเต้นเร็ว ยาบางชนิด ยาสามัญประจำบ้าน และคาเฟอีน ล้วนแล้วแต่เป็นตัวกระตุ้น เพื่อลดอาการหัวใจเต้นเร็วหรือลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติ ให้รวมเฉพาะเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีนและไม่มีแอลกอฮอล์ในอาหารของคุณ ชาและกาแฟบางชนิดที่ระบุว่าไม่มีคาเฟอีนอาจมีปริมาณของสารนี้อยู่ ดังนั้นควรตรวจสอบกับแพทย์ของคุณเพื่อดูว่ามีคาเฟอีนมากน้อยเพียงใด คุณสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย 

ไขมันต่ำ

โรคหัวใจเป็นทั้งสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ระดับคอเลสเตอรอลสูงและโรคอ้วน ภาวะ 2 ประการที่มักเกิดขึ้นพร้อมกัน สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจเต้นเร็ว ปฏิบัติตามอาหารไขมันต่ำเพื่อลดคอเลสเตอรอลและลดน้ำหนักหากจำเป็น เลือกชีสพร่องมันเนย ดื่มนมไขมันต่ำหรือไขมันต่ำแทนนมไขมันเต็มส่วน โยเกิร์ตไขมันต่ำหรือปราศจากไขมันเป็นแหล่งแคลเซียมและโปรตีนที่ดีที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี ลดอาหารทอด ขนมขบเคี้ยว และขนมอบที่อาจมีไขมันสูง

รับประทานอาหารแดช

การอาหาร DASH – แนวทางการบริโภคอาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง – อาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหัวใจเต้นเร็วจำนวนมาก ความดันโลหิตสูงอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ อาหาร DASH ส่งเสริมการรวมผลไม้ ผัก ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ โปรตีน และธัญพืชเต็มเมล็ด เพื่อรักษาความดันโลหิตของคุณให้อยู่ในระดับปกติ และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โซเดียมต่ำเป็นกุญแจสำคัญในการรับประทานอาหาร DASH; National Heart Blood and Lung Institute แนะนำให้จำกัดการบริโภคโซเดียมของคุณให้อยู่ระหว่าง 1,500 ถึง 2,300 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อลดความดันโลหิตสูง คุณสามารถบรรลุระดับโซเดียมที่ต่ำลงได้โดยใช้สมุนไพรประเภทอื่นเพื่อปรุงรสเนื้อสัตว์และผักของคุณ และล้างผักกระป๋องด้วยน้ำก่อนเสิร์ฟ ลดการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารกระป๋อง

ลดน้ำตาล

ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลของคุณหากคุณมีอาการหัวใจเต้นเร็ว  เมื่อคุณกินน้ำตาลมากในขณะท้องว่าง ร่างกายของคุณจะตอบสนองโดยการผลิตเอนไซม์ตับอ่อน อินซูลิน และอะดรีนาลีนมากเกินไป หัวใจของคุณสามารถเริ่มเต้นเร็วขึ้นด้วยฮอร์โมนที่ไหลผ่านกระแสเลือดของคุณ อาจไม่จำเป็นต้องตัดน้ำตาลออกทั้งหมด แต่ให้กินของหวานร่วมกับมื้ออาหารปกติในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่เท่ากัน

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tachycardia/symptoms-causes/syc-20355127
  • https://www.heart.org/en/health-topics/arrhythmia/about-arrhythmia/tachycardia–fast-heart-rate
  • https://www.healthdirect.gov.au/tachycardia
  • http://www.ucihealth.org/medical-services/cardiology/cardiac-arrhythmia/tachycardia
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด