• ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • Login
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
No Result
View All Result
Home การติดเชื้อ

งูกัด (Snake Bite) : อาการ สาเหตุ การรักษา

by แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์
04/12/2020
in การติดเชื้อ, หาโรค
0
งูกัด
0
SHARES
37
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter
สารบัญ
  • แผลงูกัดคืออะไร
  • วิธีบ่งบอกลักษณะงูที่มีพิษ
  • วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด
  • การปฐมพยาบาลงูกัดและความเชื่อ
  • วิธีรักษาแผลงูกัด
  • ลักษณะภายนอกของแผลงูกัด
4.7 / 5 ( 20 votes )

แผลงูกัดคืออะไร 

ทุกปีมีการรายงานข่าวในสหรัฐอเมริกาที่พบว่าไม่ค่อนมีผู้เสียชีวิตจากการโดนงูที่มีพิษกัดแต่เมื่อโดนงูกัดควรได้รับการรักษาจากทีมแพทย์ฉุกเฉินเสมอ แม้ว่าถูกงูไม่มีพิษกัดก็ตามเนื่องจากสามารถทำให้เกิดอาการแพ้หรือติดเชื้อรุนเเรงได้ เมื่อถูกงูที่มีพิษกัดอาจทำให้เกิดอาการหลายอย่างได้แก่มีอาการเจ็บปวดบริเวณที่โดนงูกัดและมีอาการบวม มีอาการชัก คลื่นไส้อาเจียนหรือเป็นอัมพาตได้

การปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัดควรล้างแพทย์ให้สะอาด ทำใจให้สงบและไม่ขยับบริเวณที่ถูกงูกัด อย่างไรก็ตามควรไปพบเเพทย์ทันทีเนื่องจากถ้าหากรักษาได้ทันเวลา อาการทั้งหมดจะดีขึ้น 

Snake Bite

วิธีบ่งบอกลักษณะงูที่มีพิษ

ถ้าหากคุณไม่คุ้นเคยกับงูแต่ละประเภทที่มีความแตกต่างกันและไม่สามารถระบุลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างงูมีพิษและงูไม่มีพิษได้จึงทำให้ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อถูกงูกัด ดังนั้นจึงควรรักษาแผลงูกัดเสมือนถูกงูที่มีพิษกันเสมอ

ในขณะที่งูในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่เป็นงูไม่มีพิษแต่ก็ยังมีงูหลายชนิดที่มีพิษ ในสหรัฐอเมริกางูทุกชนิดเป็นงูที่มีพิษเช่นงูประการังสีแดงและงูตะปะ ซึ่งงูตะปะมีลักษณะโดดเด่นคือบริเวณตาและจมูกมีลักษณะยุบลง โดยบริเวณที่ยุบลงเป็นหลุมเป็นส่วนที่ใช้รับความร้อนของงู ในขณะที่งูตะปะทั่วไปมีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยมแต่ไม่ใช่งูที่มีหัวสามเหลี่ยมทุกตัวจะเป็นงูที่มีพิษ

ถ้าหากคุณหรือมีใครบางคนโดนงูกัด คุณจะสามารถรู้ได้ทันที เป็นไปได้ว่าเมื่อถูกงูกัดแล้ว งูสามารถหายไปได้รวดเร็วมาก 

วิธีระบุแผลงูกัดสามารถพิจารณาจากลักษณะทั่วไปดังต่อไปนี้ 

  • มีรอยเขี้ยวงูกัด 2 จุด
  • มีอาการบวมเเละแดงรอบๆแผล
  • มีอาการปวดบริเวณรอบๆที่ถูกงูกัด
  • หายใจลำบาก
  • คลื่นไส้และอาเจียน
  • มองเห็นภาพเบลอ
  • มีเหงื่อออกและน้ำลายไหล
  • มีอาการชาที่ใบหน้าและลำตัว

นอกจากนี้งูมีพิษอาจทำให้เกิดอาการที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดงู

งูหางกระดิ่ง

งูหางกระดิ่งเป็นงูที่มีลักษณะที่สังเกตุง่ายมากเนื่องจากเป็นงูที่มีกระดิ่งที่หางและหางจะสั่นเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม โดยงูหางกระดิ่งจะสั่นเสียงกระดิ่งที่หางเพื่อให้คุณระวังตัวเช่นกัน งูหางกระดิ่งเป็นงูที่มีพิษมากที่สุดและมีผู้ที่ถูกงูหางกระดิ่งหลายรายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากงูชนิดนี้มีถิ่นอยู่อาศัยทั่วประเทศ ซึงงูชนิดนี้ชอบอยู่ในที่โล่งและสามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดเช่นบริเวณโขดหินและท่อนไม้

อาการเฉพาะเมื่อถูกงูหางกระดิ่งกัดซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นทันทีได้แก่

  • อาการเจ็บปวดรุนเเรง
  • เปลือกตาปิดลง
  • ความดันเลือดต่ำ
  • กระหายน้ำ
  • เหนื่อยล้าและกล้ามเนื้ออ่อนเเรง

งูวอลเตอร์มอกคาซินเป็นงูตะปะชนิดหนึ่งหรือสามารถเรียกงูชนิดนี้ว่างูน้ำ cottonmouth เนื่องจากภายในปากของงูชนิดนี้มีเนื้อเยื่อสีขาวที่มีลักษณะเหมือนผ้าฝ้าย งูชนิดนี้มีขนาดประมาณ 50 – 55 นิ้ว โดยงูที่โตเต็มวัยจะมีผิวสีน้ำตาลไหม้ไปจนถึงสีดำและมีลายตามขวางเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ ส่วนงูน้ำที่อายุน้อยจะมีลายขวางสีน้ำตาลหรือสีส้มและมีหายสีเหลือง งูชนิดนี้สามารถพบได้ที่บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาโดยปกติมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำ งูชนิดนี้ไม่กลัวอะไรง่ายๆและมักพยายามปกป้องตัวเองเมื่อถูกคุกคาม

เมื่อถูกงูวอลเตอร์มอกคาซินกัดจะมีอาการเหมือนกับงูทางมะพร้าว ซึ่งอาการเฉพาะที่เกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้

  • มีอาการเจ็บปวดเฉียบพลัน
  • สีผิวเปลี่ยนไป
  • เกิดอาการช็อก
  • ความดันเลือดต่ำ
  • อ่อนแรง

งูทางมะพร้าว

งูทางมะพร้าวมีลักษณะเป็นสีแดงหรือสีทองและมีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยทั่วไปเเล้วงูชนิดนี้มีความยาวประมาณ 18 ถึง 36 นิ้ว โดยส่วนใหญ่งูทางมะพร้าวพบได้บริเวณป่า หนองน้ำ โขดหินและแม่น้ำในบริเวณภาคตะวันออกของประเทศ เช่นรัฐเท็กซัส งูชนิดนี้ไม่ใช่งูที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว งูทางมะพร้าวส่วนมากจะกัดคนโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อคนเหยียบโดนตัวงูหรืออยู่ใกล้งูชนิดนี้  

เมื่อถูกงูทางมะพร้าวกัดจะมีอาการเหมือนถูกงูวอลเตอร์มอกคาซินกัด ซึ่งอาการเฉพาะที่เกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้

  • มีอาการเจ็บปวดเฉียบพลัน
  • สีผิวเปลี่ยนไป
  • เกิดอาการช็อก
  • ความดันเลือดต่ำ
  • อ่อนแรง

งูประการัง

งูประการังมีสีดำหรือสีเหลืองและมีลายสีแดง โดยปกติแล้วมักเกิดความสับสนระหว่างงูคิงส์สเน็กส์ซึ่งเป็นงูที่ไม่มีพิษ คุณสามารถแยกความแตกต่างของงูประการังด้วยเส้นสีแดงลายขวางที่มีขอบสีเหลือง งูชนิดนี้มักอาศัยอยู่ในท่อนไม้และหนองบึงรวมถึงบริเวณทะเลทรายทางตอนใต้ โดยปกติงูประการังจะซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นและกองใบไม้  

อาการเฉพาะที่เกิดขึ้นเมื่องูประการังกัดได้แก่

  • มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นแบบไม่เฉียบพลัน
  • มีอาการเกิดขึ้นภายหลังจากถูกกัดหลายชั่วโมง
  • มีอาการชักกระตุก
  • เปลือกตาย้อยคล้อย
  • ผิวหนังเปลี่ยนสี
  • ปวดท้อง
  • กลืนลำบาก
  • ปวดหัว
  • เกิดอาการช็อก
  • เป็นอัมพาต

วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด

เมื่อถูกงูกัดควรได้รับการรักษาจากทีมแพทย์ฉุกเฉินทันทีถ้าเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามมีข้อควรปฏิบัติที่คุณควรจดจำไว้ 

  • โทรหาเบอร์ 191 ทันที
  • จดเวลาที่ถูกงูกัด
  • ทำใจให้สงบและอยู่นิ่งๆเพราะเมื่อขยับร่างกายจะทำให้พิษแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้เร็วขึ้น
  • ถอดเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับออกเนื่องจากบริเวณรอบแผลงูกัดอาจบวมขึ้น
  • ไม่ควรให้ผู้ที่ถูกงูกัดเดิน ควรเคลือนย้ายพวกเขาด้วยยานพาหนะ 
  • ไม่ควรฆ่าหรือจับงู ควรถ่ายรูปงูไว้ ถ้าคุณมีเวลาแต่ไม่ควรเสียเวลาไล่จับงู

การปฐมพยาบาลงูกัดและความเชื่อ

มีวิธีปฐมพยาบาลที่ล้าสมัยหลายวิธีที่ยังคงเป็นความเชื่อที่ผิดหรือไม่ได้ช่วยทำให้แผลงูกัดดีขึ้นและยังทำให้เกิดอันตรายมากขึ้นอีกด้วย

  • ไม่ความใช้สายรัดห้ามเลือด
  • ไม่ควรตัดบริเวณที่ถูกงูกัด
  • ไม่ควรประคบเย็นบริเวณที่ถูกงูกัด
  • ไม่ควรให้ผู้อื่นรักษานอกจากแพทย์
  • ไม่ควรยกบริเวณที่ถูกงูกัดให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจของผู้ที่ถูกงูกัด
  • ไม่ควรดูดพิษออกด้วยปาก
  • เมื่อก่อนไม่ควรใช้เครื่องดูดที่ใช้สำหรับดูดพิษงู แต่ปัจจุบันมีความเชื่อว่าการใช้เครื่องดูดพิษงูทำให้เกิดอันตรายมากกว่าเป็นผลดี

วิธีรักษาแผลงูกัด

สิ่งสำคัญที่ควรทำเมื่อถูกงูกัดคือการเข้ารับการรักษาจากทีมแพทย์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แพทย์จะทำการประเมินอาการผู้ที่ถูกงูกัดเพื่อตัดสินใจเลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะสม ในกรณีที่ถูกงูมีพิษกัดแต่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ควรรุนเเรงขึ้นอยู่กับบริเวณที่ถูกงูกัดและอายุรวมถึงสุขภาพของผู้ที่ถูกงูกัด ถ้าหากแผลงูกัดไม่ก่อให้เกิดอันตราย แผลจะทำความสะอาดบาดแผลตามปกติและฉีดวัคซีนบาดทะยักให้คนไข้ 

แต่ถ้าหากแพทย์งูกัดเป็นอันตรายต่อชีวิต แพทย์จะฉีดเซรุ่มต้านพิษงูให้คนไข้ ซึ่งเซรุ่มทำมาจากพิษของงูที่ใช้รักษาแผลถูกงูกัด เมื่อผู้ป่วยได้รับเซรุ่มต้านพิษงูเเล้วจะมีอาการดีขึ้น

ลักษณะภายนอกของแผลงูกัด

ลักษณะภายนอกของผู้ที่ถูกงูกัดมีความแตกต่างและหลากหลายมาก สำหรับผู้ที่ถูกงูไม่มีพิษกัด แผลภายนอกอาจดูไม่เลวร้าย สามารถล้างแผลให้สะอาดตามปกติและควรทำการรักษาทันที สำหรับแผลงูมีพิษกัด ควรนำผู้ที่ถูกงูกัดไปพบเเพทย์ทันที ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีจะมีแผลงูกัดที่ไม่ค่อยลึกซึ่งแตกต่างจากเด็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอทำให้เมื่อถูกงูกัดจะมีแผลงูกัดที่ลึกกว่า 


นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

  • https://www.cdc.gov/niosh/topics/snakes/symptoms.html
  • https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15647-snake-bites

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เธอมีความเชื่อว่าผิวพรรณที่มีสุขภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ดังนั้นความตั้งใจของเธอคือต้องการช่วยให้ทุกคนมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี ปราศจากโรคทางผิวหนัง และแพทย์หญิงวิกานดาเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งมากคนหนึ่งในประเทศ

Next Post
โรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) : อาการ สาเหตุ การรักษา

Please login to join discussion

บทความยอดนิยมของเรา

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • Erectile Dysfunction
  • รีวิวยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ประเภท

  • การติดเชื้อ
  • ครีมและเจล
  • จิตวิทยา
  • ซินโดรม
  • บทความสุขภาพ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มะเร็ง
  • หาโรค
  • อาการ
  • โภชนาการ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคตา
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคผิวหนัง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคระบบกล้ามเนื้อ
  • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
  • โรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคระบบประสาท
  • โรคระบบสืบพันธุ์
  • โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคในช่องปาก
  • โสตนาสิกลาริงซ์วิทยา

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์ Bupa.co.th รวบรวมบทความเกี่ยวกับโรคต่าง

นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ Bupa.co.th ยังส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาและนำเสนอบทความที่หลากหลายและมีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้อ่านอันเป็นที่รักของเราทุกคน

  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.