มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา( Melanoma) คือมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดที่เซลล์เมลาโนไซต์ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเมลานิน(เม็ดสี) ที่ทำให้คนมีสีผิวต่างกันไป
ราว1% ของมะเร็งผิวหนังเป็นชนิดมะเร็งผิวหนังเมลาโนมามีชื่อเรียกอื่นๆเช่น malignant melanoma หรือ cutaneous melanoma.
หากตรวจพบในระยะแรกๆ ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อการรักษาดี แต่ถ้าตรวจพบช้า จะกระจายไปทั่วร่างกายอย่างง่ายดาย
อาการของมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
อาการและอาการแสดงเริ่มแรกของเมลาโนมาคือ
-
ไฝ(ที่มีอยู่แล้ว)เปลี่ยนแปลงไป เช่นโตขึ้น แผ่ขยายมากขึ้น
-
มีจุดบนผิวหนังและขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว
หากเมลาโนมานั้นยังผลิตเม็ดสีได้ ก้อนก็จะมีสีน้ำตาลหรือดำ แต่เมลาโนมาบางอันก็ไม่ผลิตเม็ดสี ก้อนจึงอาจเป็นสีน้ำตาลอ่อน ชมพูหรือขาว
วิธีสังเกตว่าไฝนั้นอาจเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาคือ
-
รูปร่างไม่แน่นอน
-
ขอบไม่เรียบ
-
ก้อนไฝสีไม่เสมอกันหรือมีหลายสี
-
ขนาดใหญ่กว่า ¼ นิ้ว
-
ขนาด รูปร่างหรือสีของไฝ เปลี่ยนแปลงไป
-
คันหรือมีเลือดออก
มะเร็งผิวหนังเมลาโนมาเกิดที่ผิวหนังได้ทุกที่ แต่ที่พบบ่อยคือ
-
ในผู้ชาย พบที่หน้าอกและหลัง
-
ผู้หญิง ที่ขา
-
คอ
-
ใบหน้า
อาจเพราะบริเวณนี้ถูกแสงแดดมากกว่าผิวหนังบริเวณอื่น แต่เมลาโนมาก็อาจเกิดบริเวณที่ไม่ค่อยถูกแสงอาทิตย์ เช่น ส้นเท้า ฝ่ามือ และซอกนิ้วได้ บางครั้งผิวหนังก็ดูเหมือนปกติแม้ว่าจะมีเมลาโนมาเกิดขึ้นแล้ว
ประเภทของมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
ประเภทที่พบบ่อยเป็นชนิดตื้นและแผ่กระจาย มักจะกระจายไปทั่วผิวหนัง ขอบไม่เรียบ และมีสีต่างๆเช่น ดำ ชมพูหรือแดง
เมลาโนมาชนิดก้อน เป็นอีกชนิดหนึ่งที่โตขยายลึกลงไปในชั้นผิวหนัง มักจะเห็นเป็นก้อนนูน
เมลาโนมาชนิด Lentigo maligna มักเกิดกับส่วนของร่างกายที่ถูกแสงแดดมาก เช่น ใบหน้า มักเกิดในผู้สูงอายุ จะเห็นเป็นแผ่นดำขอบไม่เรียบที่ใบหน้า
เมลาโนมากระจาย คือเมื่อเซลล์มะเร็งกระจายไปสู่ส่วนอื่นๆของร่างกายเช่น ต่อมน้ำเหลือง อวัยวะต่างๆ และกระดูก
มะเร็งผิวหนังเมลาโนมาชนิดหายากนั้น นอกจากจะเกิดที่ผิวหนังแล้ว ยังเกิดในเนื้อเยื่อภายในของร่างกาย และดวงตา

เมลาโนมาของเยื่อบุ เกิดที่เยื่อบุต่างๆเช่น
-
ทางเดินอาหาร
-
ปาก
-
จมูก
-
ทางเดินปัสสาวะ
-
ช่องคลอด
เมลาโนมาที่ดวงตา เกิดที่ชั้นใต้ตาขาว
การรักษามะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
การรักษาขึ้นกับระยะของมะเร็ง
ระยะ 0
มะเร็งอยู่ที่ชั้นบนของผิวหนัง ตัดออกได้ง่าย ไม่ต้องรักษาเพิ่ม
ระยะ 1 และ 2
ชั้นบางๆของเมลาโนมานั้นตัดออกให้หมดได้ง่าย แต่ถ้าเซลล์มะเร็งลงไปลึกกว่านั้น อาจต้องการการผ่าตัดออก โดยการตัดส่วนที่เป็นมะเร็งและขอบที่เป็นผิวหนังปกติ รวมถึงชั้นใต้บริเวณนั้นด้วย
เมลาโนมาระยะแรกๆไม่ต้องรักษาใดๆเพิ่ม
ระยะ 3 และ 4
เมลาโนมาระยะ 3 จะกระจายออกจากจุดเริ่มต้น ไปที่ต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง ต้องผ่าตัดแบบกว้าง เพื่อเอาก้อนและต่อมน้ำเหลืองที่มีเซลล์มะเร็งออก
เมลาโนมาระยะที่ 4 มะเร็งจะกระจายไปไกลกว่านั้น นอกจากจะตัดก้อนมะเร็งและต่อมน้ำเหลืองที่มีเซลล์มะเร็งแล้ว ต้องตัดก้อนมะเร็งที่กระจายไปที่อวัยวะภายในอื่นๆด้วย มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับจำนวน ขนาด และบริเวณที่มีก้อน
ระยะที่ 3 และ 4 ต้องมีการรักษาเพิ่มเติม เช่น
-
การรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน interferon หรือ interleukin-2 หรือ checkpoint inhibitors, เช่น ipilimumab (Yervoy), nivolumab (Opdivo), และ pembrolizumab (Keytruda).
-
การรักษาตรงเป้า สำหรับมะเร็งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน BRAF เช่น cobimetinib (Cotellic), dabrafenib (Tafinlar), trametinib (Mekinist),และ vemurafenib (Zelboraf).
-
วัคซีน เข่น Bacille Calmette-Guerin (BCG) และ T-VEC (Imlygic).
-
รังสีรักษา (ฉายแสง) เพื่อลดขนาดของก้อนและฆ่าเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่หลังจากการผ่าตัด และยังช่วยลดอาการเนื่องจากมะเร็งกระจายไปที่อวัยวะอื่น
-
Isolated limb perfusion คือการให้สารเคมีบำบัดชนิดร้อนที่บริเวณแขนหรือขาที่เป็นมะเร็ง
-
เคมีบำบัด เช่นdacarbazine (DTIC) และ temozolomide (Temodar) เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่กระจายไปทั่วร่างกาย
การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันและการรักษาแบบตรงเป้า ยังไม่พิสูจน์ว่ารักษาเมลาโนมาได้ แต่ช่วยยืดอายุได้
การให้เคมีบำบัด ช่วยลดขนาดมะเร็ง แต่กลับมาเป็นได้อีกในเวลา 2-3 เดือน
การรักษาแต่ละแบบนั้นมีผลข้างเคียงต่างกันไป บางครั้งผลข้างเคียงก็รุนแรงมาก ควรต้องปรึกษากับแพทย์ก่อน
สาเหตุของมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
ปกติ ผิวหนังใหม่จะเติบโตและดันเซลล์ผิวหนังเก่าที่ตายแล้วออกไป(เป็นขี้ไคล) ถ้าเกิดความเสียหายของ DNA ในเซลล์เม็ดสี ทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดใหม่เติบโตมากเกินไป ทำให้เกิดมะเร็ง
ยังไม่แน่ชัดว่า ทำไม DNA จึงเสียหายได้ อาจเกิดจากทั้งพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
สาเหตุหลักอาจจะเกิดจากการถูกรังสีอัลตร้าไวโอเลต ซึ่งรังสีนี้มาจากแสงอาทิตย์ และแสงจากการทำผิวสีแทน
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team