โรคเรื้อน (Leprosy) คือ โรคติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการทางผิวหนัง กล้ามเนื้อ และตามปลายประสาทต่าง ๆ เช่น มีแผล ผื่นแดง หรือผื่นสีจางตามผิวหนัง ร่วมกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ความรู้สึกลดลง หรืออาจตาบอดและเป็นอัมพาต(Pararysis)ได้หากเชื้อมีการลุกลามรุนแรง โดยโรคนี้สามารถติดต่อสู่บุคคลอื่นจากเยื่อของเหลวที่ติดเชื้ออย่างน้ำมูกและน้ำลาย ผ่านการไอ จาม หรือการพูดคุยในระยะประชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium leprae ส่วนใหญ่จะมีผลต่อประสาทของแขนขาผิวหนังเยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจส่วนบน
โรคเรื้อนก่อให้เกิดแผลที่ผิวหนังทำความเสียหายต่อเส้นประสาทและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่ได้รับการดูแลที่ดีก็อาจทำให้เสียโฉมอย่างรุนแรงและพิการอย่างมีนัยสำคัญ
โรคเรื้อนมักพบได้ทั่วไปในหลายประเทศโดยเฉพาะในเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน
อาการของโรคเรื้อนมีอะไรบ้าง?
อาการหลักๆของโรคเรื้อน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อวัยวะที่ส่วนปลายประสาทมีอาการชาหรือไม่มีความรู้สึก เช่น ที่แขน ขา เท้า
- ผมหรือขนหลุดร่วง เช่น ขนบริเวณคิ้ว
- ตาแห้ง
- ระบบประสาทส่วนต่าง ๆ ถูกทำลาย
- รูปลักษณ์ภายนอกและใบหน้าเสียโฉม เช่น เนื้อจมูกถูกทำลายจนเสียรูปร่าง นิ้วมือนิ้วเท้างอ หรือกุดด้วน
- ประสาทตาถูกทำลาย จนอาจทำให้ตาบอด
หากไม่รักษาหลังจากหลายสัปดาห์สีผิวจะเริ่มเปลี่ยนไปจากปกติ หรืออาจแดงจากการอักเสบarning
โรคเรื้อนจะแพร่กระจายได้อย่างไร?
แบคทีเรีย Mycobacterium leprae ที่ทำให้เกิดโรคเรื้อนจะแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของเยื่อเมือกของบุคคลที่ติดเชื้อ สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคนที่เป็นโรคเรื้อนจามหรือไอ
โรคนี้ไม่ติดต่อกันง่ายมาก อย่างไรก็ตามการสัมผัสใกล้ชิดซ้ำ ๆ กับบุคคลที่ไม่ได้รับการรักษาเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดโรคเรื้อนได้
แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเรื้อนจะโตช้ามาก โรคนี้มีระยะฟักตัวเฉลี่ย (เวลาระหว่างการติดเชื้อและการปรากฏตัวของอาการแรกใช้เวลา 5 ปี) อาการอาจไม่ปรากฏนานถึง 20 ปี
การรักษาโรคเรื้อน
การใช้ยาปฏิชีวนะหลายตัวยังรักษาโรคเรื้อนด้วยการฆ่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ โดยแพทย์จะเลือกใช้ยาปฏิชีวนะเหล่านี้:
- dapsone (Aczone)
- rifampin (Rifadin)
- clofazimine (Lamprene)
- minocycline (Minocin)
- ofloxacin (Ocuflux)
แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะมากกว่าหนึ่งตัวในเวลาเดียวกัน
พวกเขาอาจต้องการให้คุณใช้ยาต้านการอักเสบเช่นแอสไพรินaspirin (Bayer), (ไบเออร์), เพรดนิโซน prednisone (Rayos), หรือโทโมโลไมด์ (Thalomid) การรักษาอาจนานถึง 1 ถึง 2 ปี
คุณไม่ควรทาน thalidomide หากคุณกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อทารกในครรภ์
โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคเรื้อนมีอะไรบ้าง?
การวินิจฉัยและการรักษาล่าช้าอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง สิ่งเหล่านี้อาจรวมถึง
- การทำให้เสียโฉม
- ผมร่วงโดยเฉพาะบริเวณคิ้วและขนตา
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ความเสียหายของเส้นประสาทถาวรในแขนและขา
- ไม่สามารถที่จะใช้มือและเท้า
- คัดจมูกเรื้อรังเลือดกำเดาไหลและการพังทลายของเยื่อบุโพรงจมูก
- ม่านตาอักเสบ
- ต้อหิน โรคตาที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทตา
- ตาบอด
- เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED)
- ขาดสารอาหาร
- ไตล้มเหลว kidney failure
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/leprosy-symptoms-treatments-history
- https://www.cdc.gov/leprosy/index.html
- https://www.aad.org/public/diseases/a-z/leprosy-risk
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team