ปวดขา (Leg Pain): สาเหตุ อาการ การักษา

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
ปวดขา

สาเหตุทั่วไปของอาการปวดขา

การปวดขา (Leg Pain) ตลอดเวลาแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงมีอาการปวดขาเหมือนถูกแทงอย่างรุนเเรง โดยส่วนใหญ่อาการปวดขาเกิดจากการใช้ขาหนักมากเกินไปหรืออาการบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งอาการปวดขาส่วนมากไม่รุนเเรงเกิดขึ้นในระยเวลาสั้นๆและสามารถรักษาได้เองที่บ้าน อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาการปวดขาอาจมีสาเหตุเกิดจากโรคร้ายเเรง ดังนั้นควรไปพบเเพทย์ถ้าหากคุณเคยมีประสบการณ์เจ็บขาอย่างรุนเเรงหรืออาการปวดขาเรื้อรัง การได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องและการรักษาอย่างเหมาะสมจากอาการที่เกิดขึ้นจะช่วยทำให้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดขารุนเเรงมาขึ้นและช่วยรักษาอาการปวดขาในระยะยาวได้อีกด้วย อาการปวดขาบางประเภทเป็นอาการเจ็บขาเล็กน้อยและเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวที่แพทย์สามารถรักษาได้  Leg Pain

ตะคริว

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดขาคือกล้ามเนื้อเป็นตะคริวหรือกล้ามเนื้อเกิดอาการบีบเกร็งเฉียบพลัน โดยส่วนมากรู้จักในชื่อ “ตะคริวที่น่อง” โดยปกติตะคริวเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันเเละทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเนื่องจากกล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็ง โดยกล้ามเนื้อที่เกิดอาการหดเกร็งมักสามารถมองเห็นเป็นก้อนอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจเห็นเป็นก้อนสีเเดงหรือมีอาการบวมอยู่บริเวณที่เกิดตะคริว  กล้ามเนื้อที่อ่อนเเรงและกล้ามเนื้อขาดน้ำเป็นสาเหตุทำให้ตะคริวที่ขาได้เช่นกันโดยเฉพาะตะคริวที่น่อง นอกจากนี้ยาบางประเภทได้แก่ยาขับปัสสาวะและยาสแตนตินเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะคริวที่ขาได้เช่นกันในผู้ป่วยบางราย

การบาดเจ็บ

โดยปกติเเล้วอาจปวดขาเป็นสัญญาณของอาการบาดเจ็บอย่างเช่นอาการดังต่อไปนี้ 
  • กล้ามเนื้อฉีกเป็นอาการบาดเจ็บทั่วไปที่เกิดขึ้นกับเส้นใยกล้ามเนื้อที่ฉีกขาดเนื่องจากถูกยืดมากเกินไป โดยปกติมักเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อขนาดใหญ่เช่นกล้ามเนื้อด้านหลังขา กล้ามเนื้อน่องหรือกล้ามเนื้อหน้าขา 
  • เส้นเอ็นอักเสบเป็นการติดเชื้อของเส้นเอ็นกล้ามเนื้อที่เชื่อมต่อระหว่างข้อต่อกับกระดูก เมื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อเกิดการอักเสบติดเชื้อ ทำให้เคลื่อนไหวข้อต่อที่เกิดการอักเสบได้ยาก โดยอาการเส้นเอ็นอักเสบมักเกิดขึ้นที่เส้นเอ็นร้อยหวายหรือเส้นเอ็นที่กระดูกบริเวณส้นเท้า 
  • การอักเสบของถุงน้ำลดการเสียดสีในเข่าเกิดขึ้นเมื่อของเหลวในถุงน้ำรอบๆข้อต่อหัวเข่าเกิดการติดเชื้อ
  • อาการปวดหน้าเเข้งเกิดขึ้นด้านในของกระดูกหน้าเเข้ง โดยอาการปวดหน้าเเข้งสามารุถเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อรอบๆกระดูกหน้าเเข้งฉีกเนื่องจากถูกใช้งานหนักมากเกินไป
  • ขาหักเนื่องจากเเรงตึงเครียดเป็นอาการกระดูกหักขนาดเล็กในขา โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับกระดุกหน้าเเข้ง

อาการของโรคที่ทำให้ปวดขา

อาการของโรคบางประเภทที่ทำให้เกิดอาการปวดขาได้แก่
  • โรคหลอดเลือดแดงแข็งเกิดขึ้นจากหลอดเลือดแดงแข็งตัวและแคบลงเนื่องจากมีการสะสมของไขมันและคอลเรสเตอรอลในหลอดเลือด โดยหลอดเลือดเเดงเป็นเป็นเส้นเลือดที่ทำหน้าที่นำเลือดที่อุดมไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อหลอดเลือดแดงเกิดการอุดตันทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ลดลงและเมื่อปัญหานี้เกิดขึ้นที่ขาจะทำให้ขาได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดขาโดยเฉพาะที่น่อง  
  •  ภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำส่วนลึกที่ขาเกิดขึ้นเมื่อมีลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดดำที่อยู่ภายในร่างกายส่วนลึก จึงทำให้เกิดเส้นเลือดคอดและอุดตัน โดยปกติภาวะเส้นเลือดดำอุดตันมักเกิดขึ้นกับขาส่วนล่างหลังจากการนอนพักเป็นเวลานานซึ่งมักทำให้เกิดอาการขาบวมเเละเป็นตะคริว
  • โรคข้อต่ออักเสบคืออาการอักเสบของข้อต่อทำให้เกิดอาการบวม เจ็บปวดและผิวหนังเเดงในบริเวณที่เกิดการอักเสบ โดยปกติมักเกิดขึ้นที่ข้อต่อบริเวณหัวเข่าและสะโพก
  • โรคเก๊าต์เป็นอาการข้อต่ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย โดยปกติมักทำให้เกิดอาการเจ็บปวด บวมและผิวหนังแดงที่เท้าและขาส่วนล่าง  
  • เส้นเลือดขอดเป็นอาการที่เกิดกับเส้นเลือดใหญ่ที่มีลักษณะพันกันเนื่องจากเส้นเลือดเสื่อมสภาพ โดยปกติมักมีอาการบวมเเละผิวหนังแดงเกิดขึ้นและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ โดยส่วนใหญ่อาการเส้นเลือดขอดมักเกิดขึ้นที่น่องและข้อเท้า
  • การติดเชื้อในกระดูกหรือเนื้อเยื่อที่ขาเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการบวมแดงขึ้นหรือทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในบริเวณที่เกิดการอักเสบติดเชื้อ
  • เส้นประสาทในขาถูกทำลายเสียหายทำให้เกิดอาการชา เจ็บปวดหรือตึง โดยปกติมักเกิดขึ้นที่เท้าและขาด้านล่างซึ่งเป็นผลมาจากโรคเบาหวาน

สาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดอาการปวดขา

โรคและอาการบาดเจ็บดังต่อไปนี้สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บขาได้ แต่เป็นสาเหตุส่วนน้อยที่ทำให้เกิดอาการปวดขา 
  • โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนที่อยู่ผิดตำแหน่ง ซึ่งหมอนรองกระดูกสันหลังสามารถเคลื่อนที่ไปกดทับเส้นประสาทในกระดูกสันหลังได้จึงเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในเส้นประสาทกระดูกสันหลังและแขนขา
  • โรคปุ่มกระดูกหน้าแข้งอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อที่อยู่เชื่อมต่อระหว่างหัวเข่ากับกระดูกหน้าเเข้งเกิดการฉีกขาดจึงทำให้เกิดแรงดึงที่บริเวณกระดูกออกที่อยู่ติดกับกระดูกหน้าเเข้ง ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ใต้หัวเข่าและมีจุดกดเจ็บและอาการบวมเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่อาการนี้มักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • โรคหัวกระดูกต้นขาตายจากการขาดเลือดเกิดขึ้นเนื่องจากการขัดขวางกระแสเลือดที่ไหลผ่านเข้าไปในกระดูกข้อต่อสะโพก เมื่อขาดเเคลนเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงจึงทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนเเรงกับกระดูกเเละทำให้กระดูกถูกทำลายถาวร ความปกติที่เกิดขึ้นนี้มักทำให้เกิดอาการเจ็บปวดโดยเฉพาะบริเวณรอบๆสะโพก ต้นขาหรือหัวเข่า ส่วนใหญ่อาการนี้มักเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น
  • โรคหัวกระดูกข้อสะโพกเลื่อนเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากกระดูกข้อต่อสะโพกหลุดออกจากกันจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่สะโพก ส่วนใหญ่โรคนี้มักเกิดขึ้นกับเด็กโดยเฉพาะเด็กที่มีน้ำหนักเกิน
  • ก้อนเนื้อที่ไม่ใช้มะเร็งหรือเนื้องอกธรรมดาสามารถเกิดขึ้นได้ในกระดูกหน้าเเข้ง
  • ก้อนเนื้อร้ายหรือเนื้องอกมะเร็งรวมถึงเนื้องอกที่กระดูกสามารถเกิดขึ้นที่กระดูกขาชิ้นใหญ่เช่นกระดูกหน้าเเข้งได้เช่นกัน

วิธีรักษาอาการปวดขาที่บ้าน

โดยปกติคุณสามารถรักษาอาการปวดขาที่เกิดจากตะคริวและอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้เองที่บ้าน ด้วยวิธีรักษาอาการปวดขาเองที่บ้านดังต่อไปนี้เมื่อคุณปวดขาจากกล้ามเนื้อเป็นตะคริว เมื่อยขาหรือใช้ขาหนักมากเกินไป
  • พักขาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และยกขาขึ้นด้วยการเอาหมอนรอง
  • หาซื้อยาแก้ปวดทานเองจากร้านขายยาเช่นยาแอสไพรินหรือยาไอบลูโพรเฟนเพื่อบรรเทาและรักษาอาการปวดขา
  • สวมใส่ถุงเท้ากันกระเเทกหรือปลอกกันกระแทกเพื่อป้องกันขา

การใช้น้ำแข็งประคบ

ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่ปวดขาอย่างน้อย 4 ครั้งต่อวัน คุณสามารถประคบน้ำเเข็งบ่อยขึ้นได้ในวันเเรกหลังจากมีอาการปวดเกิดขึ้น โดยแต่ละครั้งคุณสามารถประคบน้ำแข็งได้ครั้งละ 15 นาที

อาบน้ำอุ่นและยืดกล้ามเนื้อ

อาบน้ำอุ่นและค่อยยืดกล้ามเนื้อของคุณ ถ้าหากคุณมีอาการเจ็บปวดที่ขาส่วนล่าง พยายามเหยียดเท้าออกไปข้างหน้าเมื่อนั่งหรือยืน ถ้าหากคุณมีอาการปวดต้นขา พยายามก้มตัวลงและใช้มือแตะที่หัวเเม่เท้าเพื่อยืดกล้ามเนื้อต้นขา คุณสามารถทำท่านี้ได้ขณะที่นั่งอยู่บนพื้นหรือยืนได้ สำหรับการยืดแต่ละครั้งควรทำข้างไว้ครั้งละ5-10 นาที และหยุดยืดกล้ามเนื้อเมื่อเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนเเรง

อาหารเกี่ยวข้องกับอาการปวดอย่างไร

อาหารกับความเจ็บปวดเกี่ยวข้องกันอย่างไร  เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารบางประเภทเป็นสาเหตุหรือทำให้การตอบสนองการอักเสบและอาการปวดเรื้อรังรุนแรงขึ้น คุณอาจสร้างผลเสียมากกว่าผลดีหากคุณบริโภคเป็นประจำ:
  1. อาหารแปรรูป  ที่มีน้ำตาลและ/หรือไขมันทรานส์จำนวนมาก (รวมถึงคุกกี้ โดนัท และมาการีน)
  2. มันฝรั่ง มะเขือเทศ มะเขือยาว  และสมาชิกอื่นๆ ของครอบครัวราตรี
  3. อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  4. ขนมปังขาว  หรือคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรรูปสูงอื่นๆ
  5. แอลกอฮอล์
  6. เนื้อแดง เช่น สเต็ก เนื้อวัว หรือแฮม
อาหารเหล่านี้สามารถทำให้คุณเจ็บปวดได้หลายวิธี น้ำตาลและสารให้ความหวานสามารถเพิ่มระดับอินซูลินและความไวต่อความเจ็บปวดของคุณ คาเฟอีนและมะเขือเทศเพิ่มระดับกรดในร่างกายและส่งเสริมอาการปวดอักเสบ การเลือกรับประทานอาหารและโภชนาการที่ไม่ดีสามารถเพิ่มความเจ็บปวดของคุณได้ด้วยการเพิ่มรอบเอวของคุณ ปริมาณอาหารที่อุดมด้วยไขมัน น้ำตาล หรือแป้งในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักของคุณพุ่งพรวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้ชีวิตแบบนั่งนิ่ง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทำให้อาการปวดข้ออักเสบรุนแรงขึ้นและเร่งการเสื่อมของข้อต่อ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้กล้ามเนื้อของคุณมีความเครียดมากขึ้นในขณะที่มันต่อสู้เพื่อรองรับน้ำหนักตัวของคุณ โรคอ้วนสามารถกระตุ้นการพัฒนาของหมอนรองกระดูกหรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งนำไปสู่ปัญหาทางระบบประสาท เช่น อาการปวดตะโพก เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับอาหารและโภชนาการ เงื่อนไขทั่วไปหลายอย่างในอเมริกาเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาหารและโภชนาการ ต่อไปนี้เป็นเงื่อนไขบางประการที่คำแนะนำด้านโภชนาการอาจเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาทางกายภาพบำบัดของผู้ป่วย:
  • การอักเสบ  อาหารอเมริกันมักจะมีน้ำมันพืชและอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบอยู่มาก สิ่งนี้สามารถเพิ่มความเจ็บปวดจากการอักเสบ ในหลายกรณี นักกายภาพบำบัดจะสั่งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและอาหารต้านการอักเสบมากขึ้นเพื่อช่วยในการจัดการความเจ็บปวด
  • โรคอ้วน  การมีน้ำหนักเกินทำให้เกิดความเครียดและความเครียดเกินควรต่อข้อต่อและกล้ามเนื้อของบุคคล สิ่งนี้ทำให้เกิดความเจ็บปวด ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งนิ่งมากขึ้น การนั่งนิ่งทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความเจ็บปวดมากขึ้น เป็นวัฏจักรที่น่ารังเกียจ!
  • ความผิดปกติของภูมิต้านทานผิดปกติ  จำนวนรวมของผู้ป่วยโรคภูมิต้านทานผิดปกติต่างๆ (เช่น โรคโครห์น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เบาหวานชนิดที่ 1 และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์) ตอนนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ป่วยมะเร็งในอเมริกาโดยมีอัตรากำไรที่กว้าง ความผิดปกติของภูมิต้านทานผิดปกติมักเชื่อมโยงโดยตรงกับการขาดอาหารของผู้ป่วย
  • โรคเบาหวาน.  โรคเบาหวานและภาวะก่อนเป็นเบาหวานจะนำไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ เช่น ตาบอด โรคหัวใจ และโรคไต ผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าร้อยละ 90 มีอาการปวดตามเส้นประสาทร่วมด้วย อาหารและโภชนาการจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการภาวะเหล่านี้
  • โรคข้อเข่าเสื่อม  ผู้ป่วยโรคอ้วนมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคข้ออักเสบโดยเฉพาะที่หัวเข่า เมื่อบุคคลได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การควบคุมน้ำหนักจะกลายเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับอาการปวดข้อ

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/symptoms/leg-pain/basics/causes/sym-20050784
  • https://www.webmd.com/pain-management/lower-leg-pain-causes-and-treatments
  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/241968
  • https://medlineplus.gov/ency/article/003182.htm

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด