• ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • Login
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
No Result
View All Result
Home หาโรค

เลือดคั่งในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) : อาการ สาเหตุ การรักษา

by แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์
26/01/2021
in หาโรค
0
เลือดคั่งในสมอง
0
SHARES
342
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter
สารบัญ
  • สาเหตุของเลือดคั่งในสมอง
  • ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง
  • อาการของภาวะเลือดคั่งในสมอง
  • การรักษาภาวะเลือดคั่งในสมอง
  • ภาวะแทรกซ้อนที่มาจากการอาการเลือดคั่งในสมอง
  • สรุปภาพรวมภาวะเลือดคั่งในสมอง
Rate this post

ภาวะเลือดคั่งในสมอง (Intracerebral Hermorrhage) คือการที่เลือดซืมเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองอย่างกะทันหันจนทำให้สมองของผู้ป่วยเสียหาย

อาการของ ICH มักเกิดอย่างกะทันหัน อาการของโรคนี้คือปวดศีรษะ รู้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง รู้สึกสับสน และมีอาการอัมพาตที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย การสะสมเลือดในสมองจะทำให้เกิดแรงดันใน และสามารถขัดขวางการรับออกซิเจนของสมอง อาการนี้จึงสามารถทำให้สมองและเส้นประสาทถูกทำลายได้อย่างรวดเร็ว

ถือเป็นเหตุฉุกเฉินที่แพทย์จะต้องทำการรักษาทันทีที่ผู้ป่วยมีอาการเลือดคั่งในสมอง แต่โรคนี้ไม่พบบ่อยเหมือนอาการของโรคหลอดเลือดสมองตีบ (เป็นอาการที่เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมองเกิดการอุดตันจากลิ่มเลือด) แต่ความรุนแรงของโรคจะร้ายแรงกว่ามาก

สาเหตุของเลือดคั่งในสมอง

ความดันโลหิตที่สูงผิดปกติมักเป็นสาเหตุของภาวะเลือดคั่งในสมอง กรณีผู้ป่วยที่อายุยังน้อยยังพบสาเหตุอีกประการหนึ่งบ่อย ๆ คือร่างกายมีการสร้างเส้นเลือดในสมองมากผิดปกติ

ทุกคนมีโอกาสเป็นภาวะเลือดคั่งในสมองได้ แต่ความเสี่ยงของมักเพิ่มขึ้นตามอายุ และจากสถิติผู้ชายมีความเสี่ยงของภาวะนี้สูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย กลุ่มคนวัยกลางคนที่มีเชื้อสายญี่ปุ่น หรือแอฟริกัน – อเมริกันล้วนมีความเสี่ยงต่อ ภาวะเลือดคั่งในสมองเช่นกัน

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง

  • การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือการบาดเจ็บที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว
  • เส้นเลือดโป่งพองในสมองแตก (เส้นเลือดมีจุดอ่อนที่สามาระที่แตกออก)
  • โรคหลอดเลือดในสมองผิดปกติ (เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองที่ผิดรูป จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของเลือดในสมองตามปกติ)
  • ภาวะเส้นเลือดบางกว่าปกติ
  • ก้อนบวมในสมองที่ทำให้เลือดออก
  • การเสพโคเคนหรือยาไอซ์ (ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรงและนำไปสู่การตกเลือด)
  • ความผิดปกติเมื่อเลือดไหล (เช่น โรคฮีโมฟีเลียหรือโรคเม็ดเลือดแดงเป็นรูปเคียว)

อาการของภาวะเลือดคั่งในสมอง

อาการของภาวะเลือดคั่งในสมองประกอบด้วย

  • ความเจ็บป่วยอย่างเฉียบพลัน การรู้สึกเสียวซ่าหรือเป็นอัมพาตบริเวณใบหน้า แขน หรือขา อาการมักรุนแรงที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
  • อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและกะทันหัน
  • กลืนอาหารลำบาก
  • ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นอาจเกิดขึ้นที่ตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  • การสูญเสียสมดุลทางร่างกาย การทำงานของร่างกาย และรู้สึกวิงเวียนศีรษะ
  • เกิดปัญหาในการใช้ทักษะด้านภาษา (การอ่าน การเขียน การพูด การทำความเข้าใจ)
  • คลื่นไส้  อาเจียน
  • รู้สึกเฉื่อยชา ง่วงซึม ง่วงนอน ไม่มีสติสัมปัชชัญะ
  • รู้สึกสับสน เพ้อ

อาการเหล่านี้ล้วนเป็นอาการป่วยที่ถือว่าร้ายแรงทางการแพทย์ ดังนั้นเมื่อคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ให้โทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินทันที

การรักษาภาวะเลือดคั่งในสมอง

เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แพทย์ต้องทำการทดสอบเพื่อวินิจฉัยความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • การทำ CT สแกน การทดสอบนี้จะจำลองภาพในสมองของผู้ป่วย เพื่อยืนยันว่ามีการตกเลือดหรือไม่ และใช้เพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในศีรษะของผู้ป่วย

  • การทำ MRI สแกนอาจช่วยให้แพทย์เห็นสมองของผู้ป่วยได้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้ระบุสาเหตุที่เลือดออกได้ดีขึ้น

  • Angiogram เป็นเทคโนโลยีการ X-ray ที่สามารถจับภาพการไหลเวียนของเลือดภายในหลอดเลือดได้ จึงช่วยให้แพทย์ตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ ของหลอดเลือดได้ เช่นการโป่งพอง หรือลักษณะที่ผิดรูปของหลอดเลือด

  • การตรวจวิเคราะห์เลือดสามารถระบุความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบและปัญหาการแข็งตัวของเลือดที่เป็นสาเหตุของภาวะเลือดออกในสมองได้

Intracerebral Hemorrhage

การรักษาต้องทำภายใน 3 ชั่วโมงแรกเมื่อผู้ป่วยมีอาการของโรค จึงได้รับผลลัพธ์จากการรักษาที่ดีที่สุด

การรักษาด้วยการผ่าตัด

การผ่าตัดเลือดคั่งในสมองช่วยบรรเทาแรงดันในสมอง และช่วยซ่อมแซมหลอดเลือดแดงที่ฉีกขาดได้ ยาบางชนิดก็ใช้รักษาอาการนี้ได้ เช่น ยาแก้ปวดที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้ ส่วนยาที่ใช้ควบคุมความดันโลหิตนั้นต้องพิจารณาตามความจำเป็น และแพทย์อาจพิจารณาให้ยาลดอาการชักหากผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการชักเกร็ง

กรณีที่สมองเกิดความเสียหาย ก็มีความจำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาแบบระยะยาวได้ แนวการรักษานั้นรวมถึงการบำบัดทางกายภาพ และการฝึกพูดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ หรือปรับปรุงการสื่อสารให้ดีขึ้น แต่ก็ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยด้วย กิจกรรมบำบัดอาจช่วยให้คุณได้ผู้ป่วยมีทักษะ และมีอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกายเพิ่มขึ้น แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนและปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน

ภาวะแทรกซ้อนที่มาจากการอาการเลือดคั่งในสมอง

ภาวะแทรกซ้อนขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการตกเลือด และระยะเวลาที่สมองขาดออกซิเจน ภาวะแทรกซ้อนอาจรวมถึง:

  • ทักษะการสื่อสารที่บกพร่อง

  • อาการเหนื่อยล้า

  • ปัญหาระหว่างกลืนอาหาร

  • การสูญเสียการมองเห็น

  • ปัญหาการควบคุมความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย

  • โรคปอดอักเสบ

  • ความผิดปกติในการใช้สมอง (การสูญเสียความทรงจำ การใช้สมองไตร่ตรองพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ได้ลำบาก) ความสับสนงุนงง

  • อาการบวมที่สมอง

  • อาการชักเกร็ง

  • ภาวะซึมเศร้า ปัญหาการควบคุมอารมณ์

  • เป็นไข้

สรุปภาพรวมภาวะเลือดคั่งในสมอง

แนวทางการป้องกันภาวะการเลือดคั่งในสมอง:

  • ไม่สูบบุหรี่
  • รักษาอาการของโรคหัวใจ
  • รักษาอาการของโรคความดันโลหิตสูง
  • การควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • การดูแลรักษาสุขภาพที่ดี

ผลกระทบในระยะยาว:

การฟื้นตัวของภาวะการเลือดคั่งในสมองในผู้ป่วยแต่ละคนจะแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งขึ้นกับปัจจัยหลายประการ ทั้งอายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ตำแหน่งที่เกิดการตกเลือด และความเสียหายของสมองที่เกิดขึ้น

ผู้ป่วยบางคนอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเป็นเดือน หรือเป็นปี ผู้ป่วยเลือดคั่งในสมองส่วนมากมักเกิดความพิการในระยะยาว ในบางกรณีอาจต้องอยู่ในการดูแลของญาติหรือสถานพยาบาลตลอดเวลา


นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3138486/
  • https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/14480-brain-bleed-hemorrhage-intracranial-hemorrhage

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

Tags: ความเจ็บปวด
แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์

แพทย์หญิงวิกานดา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เธอมีความเชื่อว่าผิวพรรณที่มีสุขภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ดังนั้นความตั้งใจของเธอคือต้องการช่วยให้ทุกคนมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี ปราศจากโรคทางผิวหนัง และแพทย์หญิงวิกานดาเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งมากคนหนึ่งในประเทศ

Next Post
ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน

ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน (Nocturia) : สาเหตุ การรักษา การป้องกัน

Please login to join discussion

บทความยอดนิยมของเรา

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • Erectile Dysfunction
  • รีวิวยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ประเภท

  • การติดเชื้อ
  • ครีมและเจล
  • จิตวิทยา
  • ซินโดรม
  • บทความสุขภาพ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มะเร็ง
  • หาโรค
  • อาการ
  • โภชนาการ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคตา
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคผิวหนัง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคระบบกล้ามเนื้อ
  • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
  • โรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคระบบประสาท
  • โรคระบบสืบพันธุ์
  • โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคในช่องปาก
  • โสตนาสิกลาริงซ์วิทยา

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์ Bupa.co.th รวบรวมบทความเกี่ยวกับโรคต่าง

นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ Bupa.co.th ยังส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาและนำเสนอบทความที่หลากหลายและมีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้อ่านอันเป็นที่รักของเราทุกคน

  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.