• ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • Login
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
No Result
View All Result
Bupa Active Blog
No Result
View All Result
Home การติดเชื้อ

โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (Cytomegalovirus (CMV) Infection) : อาการ สาเหตุ การรักษา

by นิตยา สุทธิกุล (Nittaya Suttikul)
03/03/2021
in การติดเชื้อ, หาโรค
0
โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส
0
SHARES
35
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter
สารบัญ
  • การแพร่เชื้อของโรคซีเอ็มวี
  • อาการของโรคซีเอ็มวี
  • การวินิจฉัยโรคซีเอ็มวี
  • การรักษาโรคซีเอ็มวี
Rate this post

โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส Cytomegalovirus หรือ CMV คือการติดเชื้อในกลุ่มไวรัสเริมทั่วไปที่มีอาการหลากหลาย มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการจนถึงมีไข้และอ่อนเพลีย (คล้ายโรคโมโนนิวคลิโอสิส) และอาจมีไปถึงอาการรุนแรงต่อดวงตา สมอง หรืออวัยวะภายในอื่นๆ

  • ไวรัสชนิดนี้จะแพร่กระจายได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้ ด้วยการสัมผัสสารคัดหลั่งในร่างกาย.

  • คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้มักไม่มีอาการ แต่บางคนอาจจะป่วยและมีไข้ ในรายที่มีระบบภูมิร่างกายอ่อนแออาจมีอาการรุนแรง รวมไปถึงอาจทำให้เกิดตาบอดได้

  • โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัสอาจเป็นสาเหตุของการป่วยรุนแรงในเด็กทารกที่มีการติดเชื้อก่อนการคลอด

  • แพทย์อาจตรวจหาเชื้อโดยการเพาะเชื้อจากของเหลวในร่างกายเช่นปัสสาวะ

  • ตามปกติแล้วนั้นโรคนี้ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ในรายที่การติดเชื้อมีความรุนแรง การใช้ยาต้านไวรัสอาจช่วยได้

โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (CMV) คือเชื้อในกลุ่มไวรัสเริม (ไวรัสเริม แบบ5) การตรวจเลือดแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่มีการติดเชื้อซีเอ็มวีมากถึง 60-90 เปอร์เซนต์

โรคซีเอ็มวีอาจเป็นสาเหตุของอาการอื่นๆที่อาจตามมาหลังการติดเชื้อ และจะยังคงอยู่ในร่างกายเราอย่างสงบตลอดทั้งชีวิต การถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าอื่นๆอาจทำให้การสงบเงียบถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ส่งผลให้เชื้อไวรัสนี้เติบโตซึ่งบางครั้งอาจเป็นสาเหตุของโรค เกิดการติดเชื้อขึ้นที่ปอด ระบบทางเดินอาหาร สมอง ไขสันหลัง หรือที่ดวงตาได้

ตามปกติแล้วโรคติดเชื้อซีเอ็มวีมักไม่แสดงอาการ ชนิดที่มีการติดเชื้อที่รุนแรงมักเกิดขึ้นในเด็กทารกที่มีการติดเชื้อก่อนการคลอด และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคเอดส์หรือคนที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะมา ส่วนในคนที่มีระบบภูมิร่างกายต่ำโรคมักส่งผลเมื่อไวรัสที่สงบเงียบถูกกระตุ้นให้กลับมาทำงานอีกครั้ง

Cytomegalovirus (CMV) Infection

การแพร่เชื้อของโรคซีเอ็มวี

การติดเชื้อในคนอาจติดเชื้อไวรัสไซโตเมกาโลไวรัสผ่านสารคัดหลั่งจากปัสสาวะหรือน้ำลาย เชื้อไวรัสจะถูกขับออกมาในรูปแบบเมือกมูกภายในปากมดลูก (ส่วนที่ต่ำสุดของมดลูก) จากน้ำอสุจิ อุจจาระและน้ำนมจากมารดา

หากเกิดการติดเชื้อนี้ขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์อาจได้รับเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ หรือทารกอาจได้รับเชื้อในระหว่างการคลอด

โรคติดเชื้อซีเอ็มวีอาจพัฒนาขึ้นในคนที่ได้รับการถ่ายเลือดที่ติดเชื้อมา หากเกิดการติดเชื้อจากการปลูกถ่ายอวัยวะ คนที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะอาจมีภาวะอ่อนแอง่ายต่อการเกิดโรคติดเชื้อซีเอ็มวี เพราะคนที่ปลูกถ่ายอวัยวะจะต้องได้รับยากดระบบภูมิต้านทาน (ยากดภูมิคุ้มกัน) เพื่อป้องกันการปฏิเสธการปลูกถ่าย

อาการของโรคซีเอ็มวี

คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจากเชื้อไซโตเมกาโลไวรัสมักไม่มีอาการ

มีคนที่ติดเชื้อเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่แสดงอาการป่วยและมีไข้

การติดเชื้อซีเอ็มวี เช่นเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (อีบีวี เป็นไวรัสเริมชนิดที่ 4 ) ก็สามารถเป็นสาเหตุของโรคโมโนนิวคลิโอซิสในวัยหนุ่มสาวและวัยผู้ใหญ่ได้ เชื้อทั้งซีเอ็มวีและอีบีวี โมโนนิวคลิโอซิสอาจทำให้เกิดอาการไข้และอ่อนเพลีย เพียงแต่เชื้ออีบีวีอาจเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอรุนแรงได้ในขณะที่เชื้อซีเอ็มวีไม่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว

คนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนแล้วได้รับเชื้อผ่านการถ่ายเลือดที่มีเชื้อซีเอ็มวีมาด้วย เมื่อเริ่มติดเชื้ออาจมีไข้ และในบางครั้งอาจทำให้ตับมีการอักเสบหลังมีการถ่ายเลือด 2-4 อาทิตย์

ในรายที่มีระบบภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ โรคซีเอ็มวีสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้

ในรายที่เป็นโรคเอดส์ การติดโรคซีเอ็มวีเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสนี้สามารถส่งผลต่อเรตินาของดวงตา การติดเชื้อลักษณะนี้ (CMV retinitis) สามารถเป็นสาเหตุของตาบอดได้ หากมีการติดเชื้อที่สมอง (โรคไข้สมองอักเสบ) โรคปอดอักเสบหรืออาการปวดจากหลอดอาหาร หรือลำไส้เป็นแผลก็อาจเกิดขึ้นได้

หากหญิงตั้งครรภ์ถ่ายทอดเชื้อส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ อาจก่อให้เกิดสิ่งต่อไปนี้:

  • การแท้งบุตร

  • การคลอดทารกที่เสียในครรภ์

  • การเสียชีวิตในเด็กแรกเกิด

ในเด็กแรกเกิด การติดเชื้อซีเอ็มวีอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตับหรือสมองเสียหายอย่างเป็นวงกว้าง ทารกที่มีชีวิตรอดอาจต้องสูญเสียการได้ยินและมีความบกพร่องทางสติปัญญา

การวินิจฉัยโรคซีเอ็มวี

  • ในเด็กแรกเกิด ใช้วิธีการเพาะเชื้อจากปัสสาวะ

  • การตรวจเลือด

  • ในรายที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มักใช้การตรวจโดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ

โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัสไม่ใช่โรคที่ต้องรักษาทันที การวินิจฉัยโรคซีเอ็มวิบ่อยครั้งไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เพราะไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่อย่างไรก็ตามแพทย์ก็จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการติดเชื้อซีเอ็มวีจากสิ่่งต่อไปนี้:

  • ในรายที่มีอาการไข้และอ่อนเพลีย

  • คนที่ระบบภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ และมีการติดเชื้อที่ดวงตา สมองและระบบย่อยอาหาร

  • เด็กแรกเกิดที่ดูเหมือนมีอาการป่วย

เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อซีเอ็มวี แพทย์อาจทำการตรวจสอบเพื่อหาเชื้อไวรัสในของเหลวหรือเนื้อเยื่อของร่างกาย

ในทารกแรกเกิด การวินิจฉัยมักทำโดยนำตัวอย่างปัสสาวะไปเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อทำการเพาะเชื้อ และระบุชนิดของไวรัส

การตรวจเลือดจะช่วยให้เห็นแอนติบอดี้ในโรคซีเอ็มวีได้ สามารถช่วยยืนยันการติดเชื้อใหม่ได้ (แอนติบอดี้ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกาย เช่นเชื้อซีเอ็มวี) แต่การตรวจด้วยวิธีนี้ยังไม่สามารถยืนยันโรคที่เป็นอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น โรคที่เป็นสาเหตุของเชื้อไวรัสที่โดนกระตุ้นอีกครั้งในรายที่ระบบภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ ในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวอาจต้องใช้วิธีการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจเพื่อยืนยันโรคซีเอ็มวี

การรักษาโรคซีเอ็มวี

  • สำหรับโรค CMV retinitis จะใช้ยาต้านไวรัส

  • ในรายที่เป็นโรคเอชไอวี โรคเอดส์ ใช้ยาที่รักษาการติดเชื้อเอชไอวี

โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัสที่เป็นไม่มากไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษา โรคจะค่อยๆหายได้ด้วยตนเอง

เมื่อการติดเชื้อมีผลถึงขั้นอาจเสียชีวิตหรือส่งผลต่อดวงตา อาจนำยาต้านไวรัส (วาลาไซโคลเวียร์, แกนซิโคลเวียร์, ซิโดโฟเวียร์, ฟอสคาร์เนท หรือใช้ร่วมกัน) มาใช้ ยาดังกล่าวอาจเป็นแบบชนิดทานหรือผ่านทางเส้นเลือด เมื่อโรค CMV retinitis มีความรุนแรงมากขึ้น อาจต้องมีการฉีดยาโดยตรงเข้าสู่ดวงตา ซึ่งยานี้อาจส่งผลข้างเคียงที่รุนแรง และไม่สามารถเยียวยาการติดเชื้อได้ แต่อย่างไรก็ตามการรักษาก็สามารถช่วยชะลอกระบวนการของโรคและรักษาการมองเห็นไว้ได้

การใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาอาการรุนแรงอื่นๆที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นโรคซีเอ็มวี แต่มักได้ผลน้อยมากเมื่อเทียบกับการนำมาใช้รักษาโรค retinitis

หากเกิดโรคติดเชื้อซีเอ็มวีในผู้ป่วยที่มีภาวะระบบภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ จะทำให้เกิดความอ่อนแอชั่วคราว (โดยโรคหรือยา) การติดเชื้อมักค่อยๆหายไปได้เองเมื่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายฟื้นฟูกลับคืนมา หรือเมื่อหยุดการใช้ยา

การดูแลผู้ป่วยที่มีโรคเอชไอวี/โรคเอดส์ด้้วยยาเพื่อควบคุมโรคเอชไอวี (ยาต้านไวรัส) จะสามารถนำมาช่วยป้องกันการติดเชื้อซีเอ็มวีได้

คนที่มีการปลูกถ่ายอวัยวะมักได้รับยาต้านไวรัส (วาลาไซโคลเวียร์, แกนซิโคลเวียร์,หรือ ฟอสคาร์เนท) เพื่อใช้ป้องกันโรคติดเชื้อซีเอ็มวี


นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cmv/symptoms-causes/syc-20355358

  • https://www.cdc.gov/cmv/overview.html

  • https://www.nhs.uk/conditions/cytomegalovirus-cmv/

  • https://www.webmd.com/hiv-aids/guide/aids-hiv-opportunistic-infections-cytomegalovirus


เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

นิตยา สุทธิกุล (Nittaya Suttikul)

นิตยา สุทธิกุล (Nittaya Suttikul)

นิตยา สุทธิกุล คือทีมผู้เขียนของทีม Bupa Active Blog จากจังหวัดฉะเชิงเทรา คุณนิตตยา คือผู้เขียนบทความทางการแพทย์ คุณนิตยามีความสนใจทางการแพทย์และหาความรู้เพิ่มเติมในห้องสมุดที่บ้านอยู่ตลอดเวลา

Next Post
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง

โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

Please login to join discussion

บทความยอดนิยมของเรา

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • Erectile Dysfunction
  • รีวิวยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ประเภท

  • การติดเชื้อ
  • ครีมและเจล
  • จิตวิทยา
  • ซินโดรม
  • บทความสุขภาพ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มะเร็ง
  • หาโรค
  • อาการ
  • โภชนาการ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคตา
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคผิวหนัง
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคระบบกล้ามเนื้อ
  • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
  • โรคระบบทางเดินหายใจ
  • โรคระบบประสาท
  • โรคระบบสืบพันธุ์
  • โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคในช่องปาก
  • โสตนาสิกลาริงซ์วิทยา

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์ Bupa.co.th รวบรวมบทความเกี่ยวกับโรคต่าง

นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ Bupa.co.th ยังส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาและนำเสนอบทความที่หลากหลายและมีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้อ่านอันเป็นที่รักของเราทุกคน

  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • หาโรค A-Z
  • ซินโดรม
  • อาการ
  • บทความสุขภาพ
  • โภชนาการ
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • ครีมและเจล
  • ร่วมงานกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อมูลเพิ่มเติม
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.