ไบโพล่า (Bipolar Disorder) : อาการ สาเหตุ การรักษา
ไบโพล่าคืออะไร
ไบโพล่า (Bipolar Disorder) คืออาการทางจิตที่มีลักษณะอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมาก อาการของไบโพล่าได้แก่มีอารมณ์ดีมากเรียกว่าภาวะอารมณ์ดีตื่นตัวผิดปกติ (Mania) และมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนเเรง นอกจากนี้อาการไบโพลาร์ยังมีชื่อเรียกว่าโรคอารมณ์ซึมเศร้าที่มีอารมณ์พลุกพล่าน
ผู้ที่มีอาการไบโพลาร์มีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการชีวิตประจำวันและการทำงานที่โรงเรียนหรือที่ทำงานรวมถึงการรักษาความสัมพันธ์ โรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษามีเพียงแต่ทางเลือกในการบำบัดเพื่อช่วยจัดการกับอาการต่างๆที่เกิดขึ้น
อาการไบโพล่า
มีอาการหลัก 3 ประเภทที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นไบโพล่าได้แก่ภาวะอารมณ์ดีตื่นตัวผิดปกติ ภาวะไฮโปแมเนียและอาการซึมเศร้า
ในขณะที่เกิดภาวะอารมณ์ดีตื่นตัวผิดปกติ ผู้ที่เป็นไบโพล่าจะรู้สึกมีอารมณ์ดีมาก พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้น หุนหันพลันแล่น มีจิตใจเบิกบานและมีพลังงานเหลือล้น ซึ่งในช่วงที่เกิดการตื่นตัวผิดปกติพวกเขาอาจยังทำพฤติกรรมดังต่อไปนี้เช่น
- ใช้จ่ายเงินอย่างสนุกสนาน
- มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน
- ใช้ยาเสพติด
โดยปกติภาวะไฮโปแมเนียมีความเกี่ยวข้องกับโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นอาการที่คล้ายกับภาวะตื่นตัวผิดปกติ (mania) แต่เป็นอาการที่ไม่รุนแรง ซึ่งภาวะไฮโปแมเนียไม่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานหรือไปโรงเรียนรวมถึงความสัมพันธ์ในสังคม อย่างไรก็ตามยังสามารถสังเกตุได้ว่าผู้ที่มีภาวะไฮโปแมเนียมีภาวะอารมณ์แปรปรวน
ในช่วงที่มีภาวะซึมเศร้าคุณอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- มีอารมณ์เศร้ามาก
- สิ้นหวัง
- ไม่มีพลังงาน
- รู้สึกไม่สนใจในการทำกิจกรรมที่พวกเขาชื่นชอบ
- นอนหลับน้อยหรือมากเกินไป
- มีความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
แม้ว่าไม่ใช่อาการที่หาได้ยากแต่ไบโพล่าเป็นโรคที่สามารถทำการวินิจฉัยได้ยากเนื่องจากมีอาการที่หลากหลายเกิดขึ้น
อาการไบโพลาร์ในผู้หญิง
ผู้ชายและผู้หญิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไบโพล่าในจำนวนตัวเลขที่เท่ากัน อย่างไรก็ตามกลุ่มอาการหลักของความผิดปกตินี้มีความแตกต่างกันระหว่างเพศ สำหรับอาการไบโพลาร์ในผู้หญิงได้แก่
- ได้รับการวินิจฉัยโรคในช่วงอายุ 20-30 ปีเป็นต้นไป
- มีภาวะตื่นตัวผิดปกติมากขึ้น
- มีภาวะตื่นตัวผิดปกติมากกว่าภาวะซึมเศร้า
- มีภาวะตื่นตัวผิดปกติ 4 ครั้งหรือมากกว่าสลับกับภาวะซึมเศร้าซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละปีเรียกว่า อารมณ์แปรปรวนแบบวงจรกระชั้น (rapid cycling)
- เคยมีอาการอื่นๆเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันได้แก่โรคไทรอยด์ มีอาการวิตกกังวลและปวดหัวไมเกรน
- มีความเสี่ยงสูงในการดื่มแอลกอฮอลมากว่าปกติ
นอกจากนี้ผู้หญิงยังมีสามารถกลับไปเป็นไบโพล่าได้หลายครั้งเนื่องจากมีสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรือภาวะหมดประจำเดือน ถ้าหากผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าตนเองอาจมีอาการของไบโพล่า เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบเกี่ยวกับข้อเท็จจริง
อาการไบโพลาร์ในผู้ชาย
ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีอาการของไบโพลาร์ทั่วไปเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามผู้ชายอาจมีอาการบางอย่างที่แตกต่างจากผู้หญิงเช่นกัน สำหรับผู้ชายที่เป็นโรคไบโพลาร์มีอาการดังต่อไปนี้
- ได้รับวินิฉัยในช่วงวัยหนุ่ม
- มีอาการอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนเเรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีอารมณ์พลุกพล่าย
- มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด
- มีอาการแสดงออกในช่วงที่มีอารมณ์แปรปรวนพลุกพล่าน
สำหรับผู้ชายที่เป็นโรคไบโพลาร์มีแนวโน้มไปพบเเพทย์เพื่อรักษาตัวเองน้อยกว่าผู้หญิง ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสฆ่าตัวตายได้สูง
สาเหตุของอาการไบโพลาร์
ไบโพล่าเป็นความผิดปกติของสุขภาพจิตทั่วไปแต่ยังคงมีความคลุมเครือในงานวิจัยของแพทย์และนักวิจัย เนื่องจากยังไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้เกิดโรคนี้
สาเหตุที่เป็นไปได้ของไบโพล่าได้แก่
พันธุกรรม
ถ้าหากคุณมีญาติพี่น้องที่เป็นโรคไบโพลาร์ คุณอาจมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าผู้อื่น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรทราบคือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นไบโพล่าอาจไม่มีโรคไบโพล่าร์เกิดขึ้นได้
สมองของคุณ
โครงสร้างสมองส่งผลทำให้เกิดโรคนี้ได้เนื่องจากความผิดปกติของโครงสร้างสมองหรือการทำงานของสมองที่ผิดปกติจึงมีความเสี่ยงทำให้เกิดไบโพล่าได้สูง
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
ไม่เพียงแต่ปัจจัยทางกายภาพเท่านั้นที่ทำให้คุณมีอาการไบโพลาร์ได้ ยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
- ภาวะเครียดอย่างรุนเเรง
- มีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับความรุนเเรงที่กระทบจิตใจ
- เกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย
ปัจจัยแต่ละอย่างมีอิทธิพลทำให้เกิดโรคไบโพลาร์ขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยผสมผสานกัน สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไบโพลาร์
การรักษาไบโพล่า
ไบโพล่ามีการรักษาหลายวิธีที่สามารถช่วยทำให้คุณจัดการกับโรคอารมณ์สองขั้วนี้ได้ ซึ่งได้แก่การใช้ยา การเข้ารับคำปรึกษาและการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต นอกจากนี้การธรรมชาติบำบัดยังสามารถช่วยรักษาอาการโรคไบโพลาร์ได้เช่นกัน
การใช้ยา
ยาที่เเนะนำได้แก่
- ยาปรับอารมณ์ให้สมดุลเช่น ยา lithium (Lithobid)
- ยาระงับอาการทางจิต เช่น ยา olanzapine (Zyprexa)
- ยาต้านอาการซึมเศร้าและยาระงับอาการทางจิต เช่น ยา fluoxetine-olanzapine (Symbyax)
- กลุ่มยานอนหลับและยาคลายเครียด (benzodiazepines) ยาระงับอาการวิตกกังวล เช่นยา Alprazolam (Xanax) ที่สามารถนำมาใช้ในระหว่างการรักษาในระยะสั้น
การบำบัดจิตใจ
การรักษาด้วยการทำจิตบำบัดได้แก่
การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม
การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรมเป็นการบำบัดด้วยการพูดคุย โดยคุณและนักจิตบำบัดจะพูดคุยเกี่ยวกับวิธีจัดการกับอาการของโรคไบโพลาร์ พวกเขาจะช่วยทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบควาคิดของคุณ นอกจากนี้พวกเขายังสามารถช่วยทำให้คุณสามารถหาทางออกเกี่ยวกับวิธีรับมือกับภาวะอารมณ์ 2 ขั้วได้
การให้สุขภาพจิตศึกษา
การให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตเป็นการให้คำปรึกษาประเภทหนึ่งที่ช่วยทำให้คุณและคนที่คุณรักสามารถเข้าใจเกี่ยวกับความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพจิต การเรียนรู้เกี่ยวกับไบโพล่าจะช่วยทำให้คุณและผู้อื่นสามารถจัดการกับวิธีการใช้ชีวิตได้
การบำบัดด้วยวิธีสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
การบำบัดด้วยการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่นๆมุ่งเน้นที่การปรับปรุงพฤติกรรมในการใช้ขีวิตประจำวันเช่นการนอนหลับ การทานอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งทางปรับพฤติกรรมพื้นฐานในการใช้ชีวิตเหล่านี้ให้สมดุลเป็นวิธีที่สามารถช่วยจัดการกับภาวะผิดปกติทางจิตใจของคุณได้
ทางเลือกอื่นๆในการรักษา
วิธีการรักษาประเภทอื่นๆได้เเก่
- การรักษาผู้ป่วยด้วยไฟฟ้า
- การให้ยานอนหลับ
- การทานอาหารเสริม
- การฝั่งเข็ม
การเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต
นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนง่ายๆดังต่อไปนี้ที่คุณสามารถนำไปใช้จัดการกับภาวะอารมณ์ 2 ขั้วของคุณได้
- รักษาพฤติกรรมการทานและนอนหลับให้เป็นปกติ
- เรียนรู้เพื่อจำจดภาวะอารมณ์แปรปรวน
- ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือญาติเพื่อช่วยสนับสนุนแผนการรักษาของคุณ
- ปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่ใบอนุญาติให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตยังช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าที่เกิดจากไบโพล่าได้อีกด้วย
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา