จมูกไม่ได้กลิ่น (Asnomia) คือภาวะการสูญเสียการได้กลิ่นบางส่วนหรือทั้งหมด อาการทั่วไปคือความรู้สึกระคายเคืองจมูก เช่นอาการภูมิแพ้หรือการเป็นหวัด ก็เป็นอาการของจมูกไม่ได้กลิ่นเหมือนกัน
อาการที่มีความรุนแรงเป็นอาการที่ส่งผลกับสมองและเส้นประสาท เช่นเนื้องอกในสมอง หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ ก็อาจทำให้สูญเสียการรับกลิ่นไปชั่วคราวได้ บางครั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นสาเหตุจมูกไม่ได้กลิ่นเช่นกัน
ภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นปกติไม่ใช่ภาวะที่รุนแรง เพียงแต่อาจกระทบต่อการใช้ชีวิตได้
ผู้ป่วยที่มีภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นก็อาจจะไม่สามารถรับรู้รสชาติอาหารได้เต็มที่และทำให้ความอยากในการรับประทานอาหารลดน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวลงหรือขาดสารอาหาร จมูกไม่ได้กลิ่นเป็นสาเหตุของความเครียดเพราะความสามารถในการได้กลิ่นหรือรับรู้รสอาหารที่ชื่นชอบมันหายไป
อะไรคือสาเหตุของจมูกไม่ได้กลิ่น?
จมูกไม่ได้กลิ่นบ่อยครั้งมักเกิดขึ้นมาจากการบวมและอุดตันภายในจมูกซึ่งเป็นตัวการในการกันกลิ่นไม่ให้ไปถึงด้านบนของจมูกได้ จมูกไม่ได้กลิ่นในบางครั้งอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับการส่งสัญญานจากเส้นประสาทในจมูกไปยังสมอง สาเหตุที่พบบ่อยของภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น:การระคายเคืองเยื่อเมือกในจมูก
ซึ่งส่งผลมาจาก:- ไซนัสอักเสบ
- โรคไข้หวัด
- การสูบบุหรี่
- โรคไข้หวัดใหญ่
- โรคภูมิแพ้(โรคจมูกอักเสบ)
- หายใจขัดเรื้อรังที่ไม่เกี่ยวกับภูมิแพ้(โรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้)
การอุดตันในจมูก
การสูญเสียการได้กลิ่นจากการถูกปิดกั้นทางเดินของอากาศที่เข้าสู่จมูก อาจเกิดจาก:สมองและเส้นประสาทเสียหาย
เนื่องจากประสาทรับกลิ่นที่อยู่ในจมูก เป็นตัวส่งสัญญานข้อมูลผ่านเส้นประสาทไปยังสมอง หากพบว่ามีส่วนใดได้รับความเสียหายก็อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียหายมีดังต่อไปนี้:- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- โรคอัลไซเมอร์
- เนื้องอกในสมอง
- โรคฮันติงตัน
- ความผิดปกติของฮอร์โมน
- ภาวะขาดไทรอยด์
- การใช้ยาบางชนิด รวมไปถึงยาปฏิชีวนะบางตัวและยารักษาโรคความดันโลหิตสูง
- โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- โรคพาร์กินสัน
- โรคจิตเภท
- โรคลมชัก
- โรคเบาหวาน
- รับสารเคมีจนเกิดความเสียหายภายในจมูก
- อาการบาดเจ็บที่สมองหรือศีรษะ
- การผ่าตัดสมอง
- ภาวะขาดสารอาหารและได้รับวิตามินไม่เพียงพอ
- การบำบัดด้วยรังสี
- โรคพิษสุราเรื้อรังที่เป็นมาเป็นเวลานาน
- โรคหลอดเลือดสมอง
วินิจฉัยอาการจมูกไม่ได้กลิ่นได้อย่างไร
ภาวะจมูกไม่ได้กลิ่นเป็นอาการที่ประเมินได้ยาก แพทย์จะทำการสอบถามอาการล่าสุดที่เกิดขึ้น ตรวจจมูกและตรวจร่างกายอย่างละเอียดรวมไปถึงประวัติสุขภาพ แพทย์จะสอบถามว่าเริ่มมีอาการตั้งแต่เมื่อไร ทดสอบดูว่าการสูญเสียกลิ่นไปทั้งหมดหรือแค่ในบางกลิ่นรวมถึงประสาทการรับรู้รสชาติของอาหารด้วย เมื่อได้คำตอบแล้วแพทย์อาจมีการสั่งตรวจเพิ่มเติมดังนี้:- การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน เพื่อดูรายละเอียดต่างๆของสมอง
- การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ โดยใช้คลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นสนามแม่เหล้กแรงสูงเพื่อถ่ายภาพของสมอง
- การเอกซเรย์กระโหลก
- การส่องกล้องในจมูก
อะไรคือภาวะแทรกซ้อนของจมูกไม่ได้กลิ่น
ผู้ที่จมูกไม่ได้กลิ่นมักจะไม่รู้สึกอยากอาหารจนทำให้น้ำหนักตัวลดลงและขาดสารอาหาร คนที่มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่นควรติดตั้งสัญญานเตือนไฟไหม้ไว้ในบ้าน อีกทั้งยังควรระมัดระวังในเรื่องการเก็บรักษาอาหารและการใช้แก๊สเพราะอาจเจอกับอาหารที่บูดเสียและแก๊สรั่วได้ ข้อควรระมัดระวังเพิ่มเติมเช่น:- ควรติดฉลากวันหมดอายุไว้บนอาหาร
- ควรอ่านฉลากก่อนการใช้สารเคมีต่างๆเช่นสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดครัวและพวกยาฆ่าแมลง
- ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง
รักษาจมูกไม่ได้กลิ่นอย่างไร
การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดการสูญเสียเพราะเกิดจากหวัด ภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ อาการต่างๆอาจหายไปเองได้ภายใน2-3วัน หากพบว่าอาการจมูกไม่ได้กลิ่นยังไม่หายไปแม้หวัดหรือภูมิแพ้จะดีขึ้นแล้วก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ การรักษาอาจรวมไปถึงการไม่ได้กลิ่นเพราะเกิดจากการระคายเคืองเยื่อเมือกในจมูกด้วย เช่น:- ยาแก้คัดจมูก
- ยาแก้แพ้
- ยาสเตรียรอยด์พ่นจมูก
- ยาปฏิชีวนะ สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ยาลดการระคายเคืองของจมูก
- การเลิกสูบบุหรี่
การดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติเมื่อจมูกไม่ได้กลิ่น
หากคุณกำลังมองหาเคล็ดลับธรรมชาติที่อาจปรับปรุงหรือจัดการภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น ต่อไปนี้คือคำแนะนำบางส่วน:- การสูดดมไอน้ำ: การสูดไอน้ำเข้าไปสามารถช่วยเปิดช่องจมูกและอาจทำให้คุณรับกลิ่นได้ดีขึ้น ต้มน้ำ เทลงในชาม แล้วสูดไอน้ำโดยใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะ ระวังอย่าเข้าใกล้เกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไฟไหม้
- น้ำมันหอมระเหย:น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ และโรสแมรี่ อาจช่วยกระตุ้นประสาทรับกลิ่นได้ คุณสามารถเติมน้ำมันเหล่านี้ 2-3 หยดลงในชามน้ำร้อนเพื่อสูดไอน้ำ หรือใช้ในตัวกระจายน้ำมันหอมระเหย
- รักษาความชุ่มชื้น:การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้เยื่อเมือกในช่องจมูกชุ่มชื้น ซึ่งสามารถช่วยให้คุณรับกลิ่นได้ดีขึ้น
- อาหารรสเผ็ด:เครื่องเทศ เช่น ฮอสแรดิช วาซาบิ และพริกเผ็ดสามารถสร้างความรู้สึกที่อาจทำให้คุณตรวจจับกลิ่นบางอย่างได้ดีขึ้นชั่วคราว
- อาหารที่อุดมด้วยวิตามิน:ให้แน่ใจว่าคุณมีวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอ โดยเฉพาะวิตามินเอและสังกะสี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาการทำงานของระบบรับกลิ่นให้แข็งแรง รวมอาหารต่างๆ เช่น แครอท มันเทศ ผักโขม และถั่วต่างๆ ไว้ในอาหารของคุณ
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง:อยู่ห่างจากสารระคายเคือง เช่น ควัน มลภาวะ และกลิ่นสารเคมีที่รุนแรง เนื่องจากอาจทำให้อาการคัดจมูกรุนแรงขึ้นและทำให้ภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น แย่ลงได้
- การล้างจมูก:การใช้น้ำเกลือล้างช่องจมูกสามารถช่วยลดความแออัดและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของช่องจมูกได้
- ชาสมุนไพร:ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น คาโมมายล์หรือเปปเปอร์มินต์ อาจมีฤทธิ์ผ่อนคลายและอาจช่วยเพิ่มการรับรู้กลิ่นทางอ้อมด้วยการลดความแออัด
- การฝังเข็ม:การฝังเข็มได้รับการเสนอแนะว่าเป็นวิธีการรักษาที่เป็นไปได้สำหรับภาวะ จมูกไม่ได้กลิ่นบางคนเชื่อว่าสามารถช่วยกระตุ้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นได้
- อโรมาเธอราพี:การเข้าร่วมเซสชั่นอโรมาเธอราพีด้วยกลิ่นหอมอาจกระตุ้นระบบรับกลิ่นและอาจนำไปสู่การปรับปรุงได้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/brain/anosmia-loss-of-smell
- https://www.nhs.uk/conditions/lost-or-changed-sense-smell/
- https://www.mayoclinic.org/symptoms/loss-of-smell/basics/definition/sym-20050804
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น