เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendonitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
เอ็นร้อยหวายอักเสบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบคืออะไร?

เอ็นร้อยหวายทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อน่องเข้ากับกระดูกส้นเท้า โดนเราใช้เส้นเอ็นนี้ เพื่อกระโดด เดิน วิ่ง และยืนบนลูกบอล การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และรุนแรง เช่น การวิ่งและการกระโดด อาจทำให้เกิดการอักเสบที่เจ็บปวดของเอ็นร้อยหวายเราเรียกอาการนี้ว่า Achilles tendonitis  Achilles Tendonitis

สาเหตุของเอ็นร้อยหวายอักเสบ

การออกกำลังกาย หรือการเดินมากเกินไปส่งผลให้เกิดอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ พบอาการนี้มากให้หมู่นักกีฬา อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายก็มีผลเช่นกัน เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และการติดเชื้อนั้นสามารถทำให้เกิดอาการเอ็นอักเสบ การทำกิจกรรมซ้ำ ๆ ที่เอ็นร้อยหวาย อาจทำให้เกิดการตึง และอาการอักเสบตามมาได้ สาเหตุอื่นๆ ได้แก่
  • การออกกำลงกายโดยไม่ได้อบอุ่นร่างกาย
  • การใช้งานหนักซ้ำๆ
  • การเล่นกีฬา เช่น เทนนิสที่ต้องหยุดอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนทิศทางกระทันหัน
  • การออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันโดยยังไม่ได้รับการปรับตัวและฝึกฝน
  • รองเท้าเก่า ไม่กระชับ
  • สวมรองเท้าส้นสูงทุกวันหรือเป็นเวลานาน
  • มีกระดูกส่วนเกินที่หลังส้นเท้า
  • การเสื่อมของเอ็นรอยหวายตามอายุ

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ

ประกอบไปด้วย
  • รู้สึกไม่สบายหรือบวมที่หลังส้นเท้า
  • กล้ามเนื้อน่องตึง
  • การเคลื่อนไหวจำกัดขณะที่งอเท้า
  • ผิวหนังบริเวณส้นเท้าอุ่นกว่าปกติ
อาการหลักของเอ็นร้อยหวายอักเสบคือ อาการปวดและบวมที่ด้านหลังของส้นเท้าเมื่อเดินหรือวิ่ง และอาการอื่น ๆ ได้แก่ กล้ามเนื้อน่องตึงและการเคลื่อนไหวจำกัดในขณะงอเท้า อีกทั้งยังทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าอุ่นเกินไปเมื่อสัมผัส

การรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ

มีการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบอยู่หลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การเยียวยาที่บ้าน เช่น การพักผ่อน และการใช้ยาต้านการอักเสบไปจนถึงการรักษา เช่น การฉีดสเตียรอยด์ การฉีดพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดสูง (PRP) และการผ่าตัด รวมถึงการรักษาอื่นๆ ตามคำแนะนำแพทย์ดังนี้
  • ลดการออกแรง
  • ค่อยๆยืดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อน่อง
  • เล่นกีฬาที่ใช้พลังน้อยๆ
  • ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการปวด
  • ยกเท้าขึ้นสูง เพื่อลดอาการบวม
  • สวมสายรัดหรือรองเท้ากระชับ เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของส้นเท้า
  • กายภาพบำบัด
  • ใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน (Bufferin) หรือ Ibuprofen (Advil) 
  • สวมรองเท้าทีเสริมส้นเท้าในตัวเพื่อลดความตึงของเอ็นร้อยหวาย

วิธีการ RICE

วิธีการพักผ่อน ประคบเย็น บีบอัด และยกสูง (RICE) มักจะได้ผลดีในการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบทันทีหลังจากที่คุณได้รับบาดเจ็บ โดยมีรายละเอียดดังนี้ พักผ่อน: อย่าออกแรงกดหรือลงน้ำหนักที่เส้นเอ็นเป็นเวลา 1-2 วันจนกว่าคุณจะสามารถเดินโดยไม่เจ็บปวด อาจได้รับคำแนะนำให้ใช้ไม้ค้ำยันจากแพทย์กรณีที่หลีกเลี่ยงการใช้เส้นเอ็น น้ำแข็ง: ใส่น้ำแข็งในถุงแล้วห่อด้วยผ้าแล้ววางถุงน้ำแข็งที่ห่อไว้กับผิวหนังบริเวณที่อักเสบ ถือถุงไว้ที่เอ็นของคุณเป็นเวลา 15-20 นาทีจากนั้นนำถุงออก เพื่อให้เอ็นอุ่นขึ้นอีกครั้ง น้ำแข็งช่วยให้การอักเสบหรือบวมลดลงเร็วขึ้น การบีบอัด: พันผ้าพันแผลหรือเทปกีฬารอบเอ็น เพื่อบีบอัดบริเวณที่มีอาการเจ็บ วิธีนี้ช่วยไม่ให้เส้นเอ็นบวมมากเกินไป แต่ควรระวังการพันแน่นเกินไปจนเลือดไม่ไหลเวียน การยกระดับ: ยกเท้าขึ้นเหนือระดับหน้าอก เพื่อให้เท้าสูงกว่าหัวใจ ช่วยให้เลือดกลับเข้าสู่หัวใจได้ง่าย และทำให้อาการบวมลดลง วิธีนี้ทำได้ง่ายที่สุดโดยการนอนราบและวางเท้าบนหมอนหรือพื้นผิวที่ยกสูงขึ้น

การผ่าตัด

ในกรณีที่การรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผลอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมเอ็นร้อยหวายที่เสียหาย หากอาการแย่ลงและไม่ได้รับการรักษาจะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดการแตกของเอ็นร้อยหวายซึ่งจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดส้นเท้ารุนแรงได้ สำหรับการผ่าตัดเอ็นแตกแพทย์จะพิจารณาจากความรุนแรงของการแตก และตรวจสอบประวัติมีอาการเอ็นรอยหวายแตกมาก่อนหน้าหรือไม่ แพทย์จะแนะนำให้ไปหาแพทย์ด้านกระดูก เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด วิธีการผ่าตัดแบบที่ 1 เรียกว่า การซ่อมแซมแบบเปิด ในการผ่าตัดนี้ศัลยแพทย์จะทำการผ่าเปิดขาของผู้ป่วยเหนือกระดูกส้นเท้า จากนั้นจะทำการเย็บเอ็นทั้งสองข้างที่แตกกลับเข้าด้วยกัน และปิดรอยผ่า ในอีกวิธีหนึ่งศัลยแพทย์จะทำการผ่าเพื่อเปิดบริเวณขาของผู้ป่วยที่เกิดการแตก จากนั้นจะทำการเย็บเอ็นและผิวหนังเข้าด้วยกัน และปิดรอยผ่า

สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อเอ็นร้อยหวายอักเสบ

สิ่งที่ควรทำ:

  • พักผ่อนเยอะ ๆ : ให้เวลาเอ็นร้อยหวายของคุณในการรักษาโดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นหรือทำให้เอ็นตึง
  • ประคบน้ำแข็ง:การประคบน้ำแข็งบริเวณที่เป็นประมาณ 15-20 นาที หลายครั้งต่อวันสามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้
  • การยืดกล้ามเนื้อและการเสริมสร้างความเข้มแข็ง:การออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างเบา ๆ ที่นักกายภาพบำบัดแนะนำสามารถช่วยในกระบวนการฟื้นตัวได้
  • รองเท้าที่ซัพพอร์ต:สวมรองเท้าที่ให้การสนับสนุนส่วนโค้งและการรองรับแรงกระแทกอย่างเหมาะสม รวมถึงรองเท้าเสริมกายอุปกรณ์เสริมที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • กลับสู่กิจกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป:เมื่อคุณเริ่มรู้สึกดีขึ้น ให้ค่อยๆ กลับไปสู่กิจกรรมตามปกติเพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ
  • กายภาพบำบัด:พิจารณาทำงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดที่สามารถแนะนำคุณเกี่ยวกับการออกกำลังกายและเทคนิคที่เหมาะสมในการฟื้นฟู

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/achilles-tendinitis/symptoms-causes/syc-20369020
  • https://www.webmd.com/fitness-exercise/guide/achilles-tendon-injury
  • https://www.nhs.uk/conditions/tendonitis/

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด